เปิด 3 ฉากทัศน์โควิด มี.ค.-เม.ย. เลวร้ายสุดอาจเห็นติดเชื้อใหม่แสนราย
วันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2565) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยฉากทัศน์การคาดการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ระหว่างแถลงรายงานสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ว่า เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่ง เราจะมีการคาดการณ์สถานการณ์ใหม่ โดยกรมควบคุมโรค เพื่อให้ทราบว่าโรคโควิด-19 เชื้อโอมิครอน มีการดำเนินการอย่างไรในเดือนถัดไป โดยเดือนมีนาคมนี้ คาดว่าโรคจะเข้าสู่ระดับระนาบและค่อยๆ ลดลง เริ่มที่ฉากทัศน์ผู้ป่วยปอดอักเสบ อาการรุนแรง คาดว่าจะขึ้นบ้างเล็กน้อย อาจถึงระดับ 1,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าเชื้อเดลต้าที่พบถึง 6,000-7,000 ราย ดังนั้น มั่นใจว่าระบบสาธารณสุขดูแลได้ ขณะที่ ฉากทัศน์ผู้ใส่ท่อช่วยหายใจ คาดว่า หากติดเชื้อเพิ่มขึ้น ก็จะพบสูง 400-500 ราย แต่น้อยกว่าเชื้อเดลต้าที่พบมากถึง 1,300 ราย ซึ่ง สธ.พยายามดูแลผู้ป่วยให้มีประสิทธิมากที่สุด เพื่อลดการเสียชีวิต
“และฉากทัศน์ผู้เสียชีวิต คาดว่าจะเพิ่มตามจำนวนผู้ติดเชื้อ และค่อยๆ ลดลง โดยคาดว่าจะเฉลี่ยวันละ 50 ราย ไม่มากไปกว่านี้ แล้วค่อยๆ ลดลงตามอัตราติดเชื้อ การคาดการณ์ผู้ติดเชื้อนั้น คาดว่าจะมีมากขึ้น แต่อัตราป่วยหนัก เสียชีวิต เราจะพยายามดูแลให้มีคุณภาพ เพื่อไม่ให้ป่วยมากขึ้น” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เชื้อโอมิครอน ว่า หากเทียบสหรัฐอเมริกาและยุโรปประมาณ 1-2 เดือน ขณะนี้ประเทศไทย 1-2 เดือน คือ 4-8 สัปดาห์ ก็เหลืออีกประมาณ 2-6 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็จะเริ่มทรงตัว และลดลงได้ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มาตรการยังเข้ม มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ส่วนเรื่องสายพันธุ์โอมิครอน BA.2 นั้น ข้อมูลที่ผ่านมา ไม่รุนแรงเท่าเชื้อเดลต้า
“หากเทียบสหรัฐกับยุโรป จากเป็นล้านราย แล้วก็เป็นแสนราย จากนั้นก็ค่อยๆ ลดลง ของไทยตอนนี้ ป่วยขึ้นมา 2 สัปดาห์ ก็จะเหลือ 2-6 สัปดาห์ หากเทียบกัน แต่หากกดไว้มาก ก็จะค่อยๆ ช้าหน่อย ดังนั้น หากพิจารณาแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป การติดเชื้อในไทยจะเริ่มทรงตัว และค่อยๆ ลดลง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับมาตรการต่างๆ ต้องมี และได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นต้น” นพ.โอภาส กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามฉากทัศน์ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 โอมิครอน รายใหม่ แบ่งเป็น 3 รูปแบบ ประกอบด้วย ฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด หากไม่มีมาตรการควบคุม ผ่อนคลายมาตรการ ลดการแยกตัว อาจพบผู้ติดเชื้อสูงสุดในวันที่ 19 เมษายน ถึง 100,000 ราย แต่หากมีมาตรการควบคุม ประชาชนร่วมมือป้องกันโรค อาจพบผู้ติดเชื้อสูงสุดในวันที่ 19 เมษายน ถึง 50,000 ราย แต่หากมีความเข้มข้นของมาตรการควบคุมโรค จะพบสูงสุดในวันที่ 16 มีนาคม ประมาณ 27,000 ราย
