สธ.เผยโอมิครอนระบาดสูงต่อเนื่องอีก 6 สัปดาห์ ยันรักษา 2 แสนคน อาการรุนแรง 0.13%
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยระหว่างแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้มีการระบาดกระจายเป็นวงกว้าง แต่ด้วยสายพันธุ์โอมิครอนที่มีการระบาดในยุโรปและอเมริกา ช่วงที่ผ่านมา พบว่าจะมีการระบาด 1-2 เดือน แล้วค่อยๆ ลดลง ดังนั้น ประเทศไทยเริ่มสูงขึ้นใน 2 สัปดาห์ จึงคาดว่าจะสูงต่อเนื่องอีก 2-6 สัปดาห์ ทั้งนี้ ขึ้นกับมาตรการต่างๆ ที่มีด้วย
“ต่อมาคือ เชื้อโอมิครอนจะติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ผู้ติดเชื้อจะมีอาการจมูกและคอมาก เช่น เจ็บคอ อย่างไรก็ตาม ผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการรักษา 200,000 กว่าราย พบว่าอาการปอดอักเสบเพียงร้อยละ 0.45 ใส่ท่อช่วยหายใจ ร้อยละ 0.13 ขณะที่ สายพันธุ์ย่อย BA.2 แพร่เร็วกว่า BA.1 เล็กน้อยแต่ความรุนแรงไม่ต่างกัน ข้อมูลชัดเจนว่าอัตราเสียชีวิตอยู่ในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเรื้อรัง เช่น ติดเตียง มะเร็งระยะสุดท้าย ไตวายระยะสุดท้าย เสียชีวิตค่อนข้างมากในแต่ละวัน โดยพบว่าร้อยละ 60-70 มีอาการปอดอักเสบ และอีก ร้อยละ 30 ไม่มีอาการทางปอด จึงเชื่อได้ว่าการเสียชีวิตเกิดจากโรคประจำตัว” นพ.โอภาส กล่าว
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์วัคซีนป้องกันโควิด-19 ทุกชนิดมีประสิทธิภาพป้องกันโรคเท่าเทียมกัน เพียงแต่ชนิดวัคซีนอาจจะดีกับสายพันธุ์หนึ่งและอีกสายพันธุ์อาจไม่ดี รวมถึงระยะเวลาในการฉีดด้วย
“โดยเรามีข้อมูลชัดเจนว่า เมื่อรับวัคซีนแล้ว 3 เดือน ภูมิคุ้มกันจะลดลง ทำให้ความสามารถป้องกันติดเชื้อลดไปด้วยแต่ยังความรุนแรงได้ ดังนั้น วัคซีนกระตุ้นมีความสำคัญ รวมถึงขอให้ประชาชนยังคงมาตรการป้องกันโรค VACU แม้ตัวเราจะแข็งแรงแต่ยังมีโอกาสแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ ยังเน้นย้ำเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย ลดกิจกรรมเสี่ยงให้มากๆ เพราะอาจเกิดระบาดวงกว้างได้ จึงขอให้ผู้ประกอบการเคร่งครัดมาตรการ Covid-19 Free Setting รวมถึงการแยกกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คือ ผู้ติดเชื้อ และ ตัวเราเอง ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย อยู่กับผู้ติดเชื้อใกล้ชิดในระยะ 2 เมตร มากกว่า 5 นาที อยู่ในห้องปรับอากาศรวมกันมากกว่า 30 นาที จะต้องกักตัวเองที่บ้าน 7 วัน ตรวจ ATK ในวันที่ 5 หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อวันสุดท้าย และสังเกตอาการสามารถออกจากบ้านได้แต่ต้องเลี่ยงพบคนอีก 3 วัน” นพ.โอภาส กล่าว
