ศบค.ชี้แนวโน้มติดโควิดป่วยหนัก-ตายสูงขึ้น พบ 97% ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุ
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกสะสมแล้ว จำนวน 448,153,047 ราย รักษาหายแล้ว รวมจำนวน 382,096,234 ราย และเสียชีวิต รวม 6,027,317 ราย โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ เกาหลีใต้ เยอรมนี เวียดนาม รัสเซีย และญี่ปุ่น ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 18 ของโลก โดยสถานการณ์โควิด-19 ในทวีปเอเชียยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อภายในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อใหม่ จำนวน 18,943 ราย แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อภายในประเทศ จำนวน 18,843 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ จำนวน 66 ราย โดยแบ่งเป็น เข้าประเทศผ่านระบบเทสต์ แอนด์ โก 27 ราย แซนด์บ็อกซ์ 24 ราย และระบบกักตัว 15 ราย และจากเรือนจำ จำนวน 34 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.65 จำนวน 843,365 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 69 ราย รวมเสียชีวิตสะสม จำนวน 1,671 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.20 ทั้งนี้ มีผู้ติดเชื้อที่หายป่วยวันนี้ จำนวน 25,005 ราย รวมหายป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.65 จำนวน 650,609 ราย และกำลังเข้ารับการรักษาอยู่ 224,328 ราย อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการหนัก จำนวน 1,189 ราย และที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอีก จำนวน 400 ราย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตในประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น ตามกราฟจะพบว่า ผู้ป่วยปอดอักเสบ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. มีจำนวน 882 ราย แต่ในวันที่ 8 มี.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 1,189 ราย ส่วนผู้ป่วยที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. มีจำนวน 229 ราย แต่ในวันที่ 8 มี.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 400 ราย ส่วนผู้ป่วยเสียชีวิต ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. มีจำนวน 39 ราย แต่ในวันที่ 8 มี.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 69 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ย (14 วัน) ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. มีจำนวน 17,124 ราย แต่ในวันที่ 8 มี.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 22,660 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 69 รายในวันนี้ พบว่าเป็นประชากรกลุ่ม 608 หรือประชากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ร้อยละ 97 โดยแบ่งเป็น กลุ่มที่มีอายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 52 ราย คิดเป็นร้อยละ 75 และประชากรผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี แต่มีโรคเรื้อรังอีกจำนวน 15 ราย คิดเป็นร้อยละ 22 และผู้ที่ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย คิดเป็นร้อยละ 3
ในส่วนของสถานการณ์การติดเชื้อภายในประเทศแบ่งตามจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเชื้อ 2,939 ราย ชลบุรี พบผู้ติดเชื้อ 1,003 ราย นครศรีธรรมราช พบผู้ติดเชื้อ 833 ราย สมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อ 769 ราย นนทบุรี พบผู้ติดเชื้อ 701 ราย สมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อ 587 ราย ภูเก็ต พบผู้ติดเชื้อ 563 ราย นครราชสีมา พบผู้ติดเชื้อ 555 ราย พระนครศรีอยุธยา พบผู้ติดเชื้อ 528 ราย และบุรีรัมย์ พบผู้ติดเชื้อ 446 ราย
สำหรับผลการให้บริการวัคซีน ข้อมูลเมื่อวันที่ 7 มี.ค. เวลา 18.00 น. ประเทศไทยฉีดวัคซีนให้ประชาชนเพิ่มขึ้น 120,488 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 35,115 ราย สะสมรวม 53,983,869 ราย คิดเป็นร้อยละ 77.6 ของจำนวนประชากรทั้งหมด เข็มที่ 2 จำนวน 13,535 ราย สะสมรวม 49,878,379 ราย คิดเป็นร้อยละ 71.7 ของจำนวนประชากรทั้งหมด และเข็มที่ 3 จำนวน 71,838 ราย สะสมรวม 21,174,324 ราย คิดเป็นร้อยละ 30.4 ของจำนวนประชากรทั้งหมด รวมทั้งสิ้น 125,036,572 โดส (สะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64)
