ดับโควิดวันนี้ 59 ราย พบ 41 ราย ไม่ได้รับวัคซีนซักเข็ม ศบค. เผยพร้อมเปิดเรียน 17 พ.ค.นี้

แฟ้มภาพ

ดับโควิดวันนี้ 59 ราย พบ 41 ราย ไม่ได้รับวัคซีนซักเข็ม ศบค. เผย ตัวเลขฉีดวัคซีนเด็ก 2 เข็มสูง 78% พร้อมเปิดเรียน 17 พ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า ในวันนี้พบผู้ติดเชื้อจำนวน 8,019 ราย ซึ่งเป็นการรายงานยืนยันด้วยวิธี RT-PCR และตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 59 ราย มีกลุ่มผู้ที่มีอาการปอดอักเสบจะเห็นว่ามีทิศทางที่ลดลง ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน ตัวเลขผู้ป่วยปอดอักเสบอาการหนัก หรือต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และตัวเลขผู้เสียชีวิต

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สิ่งที่ทางศบค.เป็นห่วงและเน้นย้ำมาตลอดคือจำนวนผู้เสียชีวิต วันนี้ 59 ราย พบว่าทั้งหมดร้อยละ 100 เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงอยู่ในกลุ่ม 608 ทั้งสิ้น และในจำนวนนี้ 41 ราย เป็นผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มแรก คิดเป็นร้อยละ 70 ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิต และมีอีกจำนวน 3 ราย ที่เพิ่งได้รับวัคซีนเข็ม 1 และเกิดการติดเชื้อและรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต และอีก 15 ราย ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แต่นานเกิน 3 เดือน และยังไม่ได้รับเข็มที่ 3 หรือบูสเตอร์โดส ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตุว่า 21 รายที่รายงานเสียชีวิตวันนี้มาจากภาคอีสาน ก็สะท้อนให้เห็นว่าเราต้องช่วยกันรณรงค์ฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทั้งประเทศด้วย

“ในส่วนของการดูเคสต่างประเทศ ต้องเรียนย้ำว่าเราไม่สามารถดูประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นต้นแบบได้ เพราะพี่น้องประชาชนหลายส่วนอาจจะนำข่าวต่างประเทศมาเสนอว่า ร้านอาหาร ผับ บาร์ ต่างๆ ในต่างประเทศเขาก็เปิดให้บริการกันแล้ว ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยแล้ว อันนี้ต้องเน้นย้ำว่า เราต้องยึดตามประกาศของศบค.ชุดใหญ่ และกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ของไทยเป็นหลัก เพราะแต่ละประเทศที่แม้จะผ่อนคลาย แต่ถ้าไปดูตัวเลขการติดเชื้อและเสียชีวิต ยังคงสูงอยู่ ยกตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ทั้งประเทศมีการยืนยันผู้ติดเชื้อไปแล้วกว่า 83.9 ล้านราย ก็มีผู้ติดเชื้อสูงและทำให้ผู้เสียชีวิตสูงตามสัดส่วน โดยมีราายงานเสียชีวิตทั้งสิ้นแล้ว 1 ล้านราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่วันนี้ 226 ราย จึงเป็นที่มาว่า เราติดตามสถานการณ์โลกได้ แต่คงต้องปรับมาตรการให้สอดคล้องกับบ้านเราเป็นหลักด้วย” พญ.อภิสมัย กล่าว

Advertisement

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า ในส่วนของเอเชียที่น่าสนใจ เช่น เกาหลี และญี่ปุ่น มีอัตราการติดเชื้อเกือบๆ 40,000 ราย อย่างเกาหลีใต้ 43,899 ราย แต่อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 29 ราย ญี่ปุ่น ติดเชื้อ 39,000 ราย เสียชีวิต 51 ราย ตรงนี้สะท้อนให้เห็นปัจจัยที่สำคัญว่าแม้จะติดเชื้อสูง แต่มีอัตราการตายต่ำ อันเป็นผลจากการฉีดวัคซีนของประชากรในระดับที่ค่อนข้างสูง

“สำหรับสถานการณ์ในบ้านเราวันนี้ 10 จังหวัด ที่มีการรายงานติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ร้อยเอ็ด ชลบุรี บุรีรัมย์ สมุทรปราการ นครราชสีมา มหาสารคาม อุบลราชธานี ขอนแก่น และสุรินทร์ ส่วน 10 จังหวัดที่มีการรายงานผู้ป่วยปอดอักเสบที่กำลังรักษาอยู่ในรพ. สูงสุด ซึ่ง กทม. ยังคงสูงอยู่ที่ 135 ราย แต่ถ้าดูเทียบกับอัตราการครองเตียงของผู้ป่วยระดับ 2-3 ยังอยู่ในอัตราที่ไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งยังสามารถรองรับการป่วยหนักได้” พญ.อภิสมัย กล่าว

Advertisement

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในวันนี้ที่ศบค.ชุดเล็กได้ทำการหารือกันคือเรื่องของการเปิดภาคเรียน ที่บางรร.จะเริ่มเปิดในวันที่ 17 พ.ค. นี้แล้ว โดยได้มีการรายงานตัวเลขการฉีดวัคซีนของเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ทั้งสิ้น 5,114,503 ราย พบว่าตัวเลขค่อนข้างดี กว่าร้อยละ 95.53 ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และในจำนวนนี้มีอีกร้อยละ 78.47 ได้รับเข็มที่ 2 แล้ว และอีกร้อยละ 1.26 ได้รับเข็มกระตุ้นแล้ว ทางกระทรวงศึกษาธิการได้กำกับติดตามอย่างเข้มงวด

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของเด็กอายุ 5-11 ปี ทั้งสิ้น 5,263,106 ราย กว่าร้อยละ 64.02 ได้รับเข็มที่ 1 แล้ว และร้อยละ 52.99 ได้รับเข็มที่ 2 และอีกร้อยละ 8.79 ได้รับเข็มกระตุ้นแล้ว ทั้งนี้ ทางรร.ได้ระดมสำรวจความพร้อมและทบทวนมาตรการที่จำเป็นในการเปิดภาคเรียน โดยเครื่องมือที่สถานศึกษาจะใช้คือ Thai Stop Covid Plus และ Thai Save Thai ขอให้ผู้ปกครองติดตามความคืบหน้าของรร. ในการเตรียมความพร้อมให้บุตรหลานของท่านที่จะต้องไปเรียน แม้บางรร.จะอยู่ในจังหวัดเดียวกัน แต่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่างกัน จึงทำให้มีมาตรการที่แตกต่างกันออกไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ระบบไทยแลนด์ พาส ตั้งแต่มีการปรับมาตรการมา มีการปรับปรุงระบบ หรือปรับเงื่อนไขอะไรหรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า อย่างที่เรียนว่า ไทยแลนด์ พาส จะเป็นประเด็นที่ศบค.ชุดเล็กได้รับคำถามมา ในแต่ละจังหวัด แต่ละพื้นที่ เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการการเข้าราชอณาจักรก็อาจจะมีการเกิดประเด็นคำถาม ที่เราจะต้องปรับให้เข้ากับพื้นที่ ถ้าไปดูในส่วนของการเดินทางเข้าราชอณาจักรตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป้นต้นมา หากนักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว ก็จะมีการยกเว้นการตรวจหาเชื้อ RT-PCR เมื่อมาถึงไทย พอมีการอำนวยความสะดวกตรงนี้ก็มีระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้น โดยสามารถอนุมัติโดยทันที แต่หากยังไม่สามารถแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนได้ อาจจะต้องรออนุมัติอยู่ที่ 48 ชั่วโมง อาจจะต้องดูที่พักในการกักตัวต่างๆ ซึ่งในช่วง 1 พ.ค. – 11 พ.ค. มีการรายงานเข้าประเทศทางอากาศ 181,804 ราย คิดโดยประมาณ 15,000 รายต่อวัน หลักๆ ก็จะมีสิงคโปร์ อินเดีย มาเลเซีย อังกฤษ ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อาหรับ กัมพูชา เวียดนาม และเยอรมนี โดยทุกๆ ข้อเสนอแนะ จะมีการนำไปหารือและปรับต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image