ช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยมีทิศทางที่ปรับลดลงตามตลาดหุ้นหลักทั่วโลกจากปัจจัยความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่จะยังยืดเยื้อและมีความเสี่ยงอยู่ อย่างไรก็ตาม ถือเป็นโอกาสในการเข้าไปซื้อกองทุนได้ในราคาที่ถูกลง โดยนอกจากเงินเดือนประจำ หลายคนอาจจะได้โบนัสหรือเงินพิเศษในช่วงปลายปีสามารถนำมาเป็นเงินทุนในการซื้อกองทุนได้ ซึ่งกองทุนที่มักจะซื้อในช่วงนี้ คือ กองทุนการลงทุนใน กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) โดยปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่จะสามารถซื้อแอลทีเอฟเพื่อลดหย่อนภาษีได้ ก่อนที่จะมี กองทุนรวมเพื่อการออม (เอสเอสเอฟ) มาแทน
ส่วนกองทุนแอลทีเอฟที่น่าสนใจจะมีกองทุนใดบ้างนั้น มันนี่ ทิป มีข้อมูลจาก บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด มาฝากกันค่ะ
สำหรับ 5 อันดับ ผลตอบแทนกองทุนแอลทีเอฟ ย้อนหลัง 1 ปี ได้แก่
1.กองทุนเปิดธนชาต Low Beta หุ้นระยะยาวปันผล (T-LOWBETALTFD) ผลตอบแทน 5.71%
2.กองทุนเปิด แอล เอช สแทรทิจี อิควิตี้ หุ้นระยะยาว (LHSTGLTF-A) ผลตอบแทน 5.14%
3.กองทุนเปิด แอล เอช สแทรทิจี อิควิตี้ หุ้นระยะยาว (D) (LHSTGLTF-D) ผลตอบแทน 5.11%
4.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30(SCBLT1) ผลตอบแทน 4.68%
5.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส (SCBLT2) ผลตอบแทน 4.19%
ด้านย้อนหลัง 3 ปี ได้แก่
1.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส (SCBLT2) ผลตอบแทน 7.75%
2.กรุงศรีหุ้นระยะยาว SET50 (KFLTF50) ผลตอบแทน 6.92%
3.ทิสโก้ หุ้นระยะยาว (B)(TISCOLTF-B) ผลตอบแทน 6.82%
4.กองทุนเปิด JUMBO 25 ปันผล หุ้นระยะยาว (JB25 LTF) ผลตอบแทน 6.51%
5.กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว SET50(KSET50LTF) ผลตอบแทน 6.50%
และย้อนหลัง 5 ปี ได้แก่
1.กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) ผลตอบแทน 5.50%
2.กองทุนเปิด ยูโอบี หุ้นระยะยาว (UOBLTF) ผลตอบแทน 4.15%
3.กองทุนเปิดพรินซิเพิล หุ้นระยะยาว (PRINCIPAL LTF) ผลตอบแทน 3.97%
4.กองทุนเปิดภัท หุ้นระยะยาวปันผล (PHATRA LTFD) ผลตอบแทน 3.93%
5.กองทุนเปิด แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว (VALUE-D LTF) ผลตอบแทน 3.68%
สนใจลงทุนกองทุนแบบไหน สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนนั้นๆ ได้ แต่อย่าลืมประเมินความเสี่ยงก่อนการลงทุนด้วยนะคะ
กระปุกหมู