คงได้ยินข่าวกันแล้วว่า ธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) จะยกเลิกใช้บัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตแบบแถบแม่เหล็ก โดยจะสามารถใช้บริการได้ถึงวันที่ 15 มกราคม 2563 ตั้งแต่ 16 มกราคม 2563 เป็นต้นไปจะไม่สามารถใช้บริการกดเงินหรือชำระเงินได้ ซึ่งผู้ที่ยังถือบัตรบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตแบบแถบแม่เหล็กต้องไปเปลี่ยนเป็นบัตรแบบชิปการ์ดที่ธนาคารที่ถือบัตรอยู่ มันนี่ทิปมีรายละเอียดจาก ธปท.มาฝากกันค่ะ
การเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตแบบแถบแม่เหล็กเป็นบัตรแบบชิปการ์ด ธปท. สมาคมธนาคารไทย และสถาบันการเงิน ได้ร่วมกันผลักดันมาตั้งแต่ปี 2559 เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ ป้องกันการปลอมแปลงบัตร และการโจรกรรมข้อมูล (สกิมมิ่ง) นำไปทำบัตรปลอม และใช้ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม
โดยปัจจุบันบัตรเอทีเอ็มและเดบิตทั้งหมด 67 ล้านใบ เปลี่ยนเป็นชิปการ์ดแล้ว 47 ล้านใบ เหลืออีก 20 ล้านใบที่ยังไม่ได้เปลี่ยน และต้องมาดำเนินการเปลี่ยน หากไม่เปลี่ยนจะไม่สามารถใช้งานได้
วิธีการสังเกตว่าบัตรที่ถืออยู่เป็นบัตรประเภทใดนั้น บัตรแถบแม่เหล็ก จะไม่มีตัวชิป (Chip) อยู่บนหน้าบัตร จะมีเพียงแถบแม่เหล็กอยู่ด้านหลังบัตรเท่านั้น สำหรับบัตรชิปการ์ด จะมีตัวชิปสี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่ติดอยู่บนด้านหน้าของบัตร ส่วนด้านหลังของบัตรนั้นจะยังคงรูปแบบเดิมไว้คือมีแถบแม่เหล็กสำหรับให้ผู้ถือบัตรเซ็น/ลงลายมือชื่อ
ดังนั้น เพื่อให้ใช้งานบัตรได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ยังถือบัตรแถบแม่เหล็กอยู่สามารถติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรที่ถืออยู่ได้ทุกสาขา โดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเดบิตหรือบัตรเอทีเอ็มใบเดิม และสมุดบัญชีเงินฝาก โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนบัตรและค่าธรรมเนียมใดๆ ภายในสิ้นปี 2562 นี้ โดยสามารถเปลี่ยนเป็นบัตรแบบเดิมที่ถืออยู่ หากมีการขายพ่วงผลิตภัณฑ์อื่นลูกค้าสามารถปฏิเสธไม่รับได้ ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งจำนวนบัตรและประชาสัมพันธ์ให้ทราบผ่านช่องทางต่างๆ ทราบแล้ว
อย่าลืมรักษาสิทธิของตนเองนะคะ
กระปุกหมู
