มันนี่ทิป : กองทุนรวมเพื่อการออม : กระปุกหมู

สัปดาห์ที่ผ่านมา มันนี่ทิปมีข้อมูล กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF (แอลทีเอฟ) ที่ปี 2562 นี้จะเป็นปีสุดท้ายที่จะสามารถซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีได้มาฝากกันแล้ว สำหรับปี 2563 จะมี กองทุนรวมเพื่อการออม หรือ SSF (เอสเอสเอฟ) มาแทน โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา รายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น มีข้อมูลจากกระทรวงการคลังมาฝากกันค่ะ

สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการซื้อกองทุน SSF ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ กำหนดให้บุคคลธรรมดาสามารถหักลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับเงินที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วย ลงทุนในกองทุน SSF ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท โดยเมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ เช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF (อาร์เอ็มเอฟ) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ หรือเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นต้น แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ในแต่ละปีภาษี กองทุน SSF ลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท

ซึ่งไม่กำหนดจำนวนขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุนและไม่กำหนดเงื่อนไขในการซื้อต่อเนื่อง โดยผู้ซื้อกองทุน SSF สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อถือมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อ ทั้งนี้ เงินได้จากการขายคืนหน่วยลงทุน SSF จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยจะสามารถสามารถหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนใน SSF ได้ 5 ปี หรือปี 2563-2567

สำหรับกองทุน SSF นี้สามารถลดหย่อนภาษีได้มากขึ้นจาก 15% เป็น 30% ของเงินได้พึงประเมินแต่ยอดสูงสุดนั้นต่ำลงจาก 500,000 บาท เป็น 200,000 บาท ซึ่งมีประโยชน์กับประชาชนกลุ่มใหญ่คือผู้ที่มีรายได้ไม่สูงมากนัก โดยจะทำให้นำมูลค่าการลงทุน SSF ไปลดหย่อนได้มากขึ้นและเสียภาษีน้อยลง การถือครองที่ยาวขึ้นจาก 7 ปีปฏิทิน เป็น 10 ปี จะสนับสนุนให้มีการออมเงินระยะยาวและยังคงได้ประโยชน์ทางภาษี

Advertisement

การลงทุนกองทุน SSF ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุน และยังได้ลดหย่อนภาษี อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาด้านสภาพคล่องส่วนตัวเพื่อการลงทุนที่เหมาะสมนะคะ

กระปุกหมู  

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image