ผู้เขียน | อาร์ม สามย่าน : [email protected] |
---|
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยกทัพยนตรกรรมพรีเมียมหลายซีรี่ส์มาให้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ในกิจกรรมทดสอบรถยนต์ BMW Fleet Review 2018 ณ สนามปทุมธานีสปีดเวย์ จ.ปทุมธานี อาทิ บีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 3 และซีรี่ส์ 4 ซีรี่ส์ 5 และ 6 บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล M และ บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล X หรือ ทั้งยังพาไปรู้จักกับเทคโนโลยี BMW ConnectedDrive ที่ใส่มาในรถ BMW รุ่นใหม่ “ยานยนต์มติชน” ขอพาไปรู้จักรถทั้งหมดอย่างคร่าวๆ
เริ่มจาก บีเอ็มดับเบิลยู 320d M Sport ราคา 2,459,000 บาท เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัวเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรได้ภายใน 7.2 วินาที ความเร็วสุงสุด 230 กม./ชม. ชุดแต่ง M Sport รอบคันและช่วงล่าง M Sport ระบบเซนเซอร์คุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง (Park Distance Control) ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) เซนเซอร์ควบคุมความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side impact protection) จอภาพขนาด 6.5 นิ้ว ปุ่มควบคุมiDrive และการเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth และช่อง USB
ต่อมาคือ บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ราคา 2,759,000 บาท เทคโนโลยี iPerformance เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เบนซิน 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ส่งกำลังสูงสุดที่ 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้ามอบกำลังเพิ่มเติมอีก 65 กิโลวัตต์ / 89 แรงม้า พร้อมแรงบิด 250 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ ใช้ไฟฟ้าอย่างเดียวได้ความเร็วสูงสุด 120 กม.ต่อชม. ในโหมดไฮบริด เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 6.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 225 กม.ต่อชม. เมื่อใช้งานร่วมกันจะได้กำลัง185 กิโลวัตต์ / 252 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 55.6 กม.ต่อลิตร
บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport มาพร้อมชุดแต่
คันที่สาม บีเอ็มดับเบิลยู 430i Convertible M Sport ราคา 4,259,000 บาท เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ กำลังสูงสุด 185 กิโลวัตต์ / 252 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 15.6 กม.ต่อลิตร เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม.ต่อชั่วโมงได้ในเวลา 6.3 วินาที เร่งความเร็วสูงสุดได้ 250 กม.ต่อชั่วโมง ชุดแต่ง M Aerodynamics ล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วแบบ double-spoke และขอบหน้าต่างสีดำเงาจากชุดแต่
คันที่สี่ บีเอ็มดับเบิลยู 520d Sport ราคา 3,439,000 บาท เครื่องยนต์ดีเซล BMW TwinPower Turbo4 สูบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม.ต่อชั่วโมงได้ในเวลา 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 235 กม.ต่อชั่วโมง มาคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 20 กม.ต่อลิตร
ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้วแบบ double-spoke ไฟหน้า follow-me-home และไฟ welcome lighting ภายใน ห้องโดยสารตกแต่งด้วย fine-wood trim ในสี poplar grain grey พร้อมด้วย highlight trim finisher สีโครเมียมมุก มีระบบ BMW Gesture Control ซึ่งจะสามารถควบคุมฟังก์ชั่นที่ต้องการได้ด้วยการเคลื่อนไหว
คันที่ห้า บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport ราคา 3,939,000 บาท เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร BMW TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 290 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด83 กิโลวัตต์ / 133 แรงม้า เมื่อทำงานร่วมกัน เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังรวมสูงสุด 252 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 55.6 กม.ต่อลิตร เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม.ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กม.ต่อชั่วโมง
นอกจากโหมด SPORT, COMFORT และ ECO PRO ผู้ขับขี่สามารถใช้ eDrive เพื่อเปิดการใช้งานระบบ BMW eDrive ซึ่งช่วยให้ทุกการเดินทางแม่นยำมากขึ้นด้วยอีก 3 โหมดเพิ่มเติม คือ AUTO eDRIVE, MAX eDRIVE และ BATTERY CONTROL ยังมีระบบช่วยนำรถเข้าที่จอด (Parking Assistance) หน้าจอความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ซึ่งนอกจากจะควบคุมโดยปุ่ม iDrive Controller ยังสามารถสั่งการด้วยการกดปุ่มบนหน้าจอ หรือด้วยระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) และระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW Gesture Control)
ล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วลาย Double-Spoke ระบบจอภาพแสดงข้อมูลการขับขี่ (BMW Head-Up Display) หลังคากระจกเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า ขอบหน้าต่างภายนอกตกแต่งแบบ BMW Individual high-gloss พร้อมชุดตกแต่งภายนอก M Aerodynamics
ยังมีระบบช่วยนำรถเข้าที่จอด (Parking Assistance) อัตโนมัติ ทั้งจอดรถในรูปแบบแนวขนานหรือการจอดแบบเข้าซอง มีระบบอัลตร้าโซนิคเซ็นเซอร์ (ultrasonic sensors) ช่วยค้นหาพื้นที่จอดที่เหมาะสมได้ในขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงสุด 35 กม./ชั่วโมง โดยเมื่อพบจุดจอดแล้ว ระบบจะทำการจอดรถเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเกียร์ หมุนพวงมาลัย ตลอดจนผ่อนคันเร่งหรือเบรกโดยอัตโนมัติ และในกรณีที่พื้นที่จอดรถทำมุมกับถนน ระบบจะต้องการพื้นที่ว่างด้านข้างตัวรถเพียงข้างละ 40 เซนติเมตร ในการทำงานแบบอัตโนมัติ
ส่วนคันที่หก บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ราคา 4,739,000 บาท จุดเด่นเน้นออกแบบให้น้ำหนักเบา ใช้วัสดุอลูมิเนียมและเหล็กกล้าคุณภาพสูงในส่วนโครงสร้างตัวรถและแชสซี เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ BMW TwinPower Turbo เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic กำลังสูงสุดที่ 195 กิโลวัตต์ / 265 แรงม้า พร้อมให้แรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม.ต่อชั่วโมงได้ใน 6.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กม.ต่อชั่วโมง อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 17.7 กิโลเมตรต่อลิตร ประตูท้ายรถแบบบานเดี่ยวที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) และระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW Gesture Control)
ประตูท้ายรถแบบบานเดี่ยวที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เบาะที่นั่งปรับเอนได้แบบ 40:20:40 พับให้เป็นพื้นราบสำหรั
ขณะที่คันที่เจ็ด คือ บีเอ็มดับเบิลยู X2 sDrive20i M Sport X ราคา 2,999,000 บาท เครื่องยนต์เบนซิน BMW TwinPower Turbo 4 สูบ กำลังสูงสุด 192 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตัวเมตรที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที เจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ Steptronic คลัตช์คู่ 7 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชั่วโมง ใน 7.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 227 กม.ต่อชั่วโมง
ชุดแต่งรอบคัน แบบ M Sport X หลังคากระจกแบบ Panorama สองส่วน ส่วนหน้าสามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า หน้าจอ Control Display ขนาด 8.8 นิ้ว ปุ่มควบคุม iDrive พร้อมระบบสัมผัส ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ที่
คันที่แปด บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ราคา 3,799,000 บาท ช่วงล่าง M Sport เครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง 4 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ความเร็ว 0-100 กม.ต่อชั่วโมง ในเวลา 8 วินาที เร็วสูงสุด 213 กม.ต่อชั่วโมง สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 17.6 กม.ต่อลิตร พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบ M Sport พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ และกล้องมองหลัง มีปุ่มควบคุม iDrive สั่งงานด้วยระบบสัมผัส จอแสดงผลภาพความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ควบคุมระบบนำทางและระบบบันเทิงสื่อสาร ผ่านการเคลื่อนไหวของมือ และการสั่งงานด้วยเสียง
คันที่9 บีเอ็มดับเบิลยู M2 Coupe ราคา 5,939,000 บาท ขุมกำลัง BMW M TwinPower Turbo 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 370 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 465 นิวตัวเมตร ที่ 1,400 – 5,560 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 4.3 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 250 กม.ต่อชั่วโมง เกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะปรับตามทิศทางหมุนของพวงมาลัย กระจกซันรูฟ
สุดท้ายคือ บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe ราคา 8,909,000 บาท เครื่องยนต์เบนซิน BMW M TwinPower Turbo 6 สูบ ใช้ชุดอัดอากาศแบบเทอร์โบคู่ ส่งกำลังสูงสุดได้ 431 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตรที่ 1,850 – 5,500 รอบต่อนาที สิ้นเปลืองน้ำมัน เฉลี่ย 12.3 กม.ต่อลิตร เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม.ต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 4.1 วินาที ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบคลัชท์คู่ M 7 สปีด จุดเด่นคือลดน้ำหนักจากรุ่นเดิมได้ 80 กก. หลังคาของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe สร้างจากวัสดุเสริมใยคาร์บอนทั้งหมด
ค่ายรถดัง ยังพาเราไปรู้จักกับ BMW ConnectedDrive ระบบสำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู iPerformance เปิดให้ผู้ใช้งานควบคุมระบบต่างๆ ของรถได้จากระยะไกล อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับรถได้อย่างง่ายดาย ผ่านแอพพลิเคชั่น BMW Connected บน iPhone โดยฟีเจอร์พิเศษสำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูปลั๊กอินไฮบริด การแสดงสถานะรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ข้อมูลเกี่ยวกับการบำรุงรักษารถได้จากทุกที่ ทุกเวลา เปิด/ปิดเครื่องปรับอากาศในห้องโดยสารได้ผ่านทางสมาร์ทโฟน หรือตั้งเวลาเปิด/ปิดล่วงหน้าให้ตรงกับเวลาที่ต้องการออกเดินทาง และหากรถยนต์เชื่อมต่ออยู่กับสถานีชาร์จ ผู้ใช้งานยังสามารถควบคุมการชาร์จด้วยการตั้งเวลาที่ต้องการได้ สามารถค้นหาและนำทางไปยังสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดได้อีกด้วย เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ของแต่ละบุคคล โดยวิเคราะห์รูปแบบการขับขี่และควบคุมรถยนต์บนท้องถนน
BMW Teleservices บริการที่ช่วยจัดการนัดหมายอัตโนมัติ ศูนย์บริการจะได้รับการแจ้งให้ทราบโดยอัตโนมัติจากตัวรถ และดำเนินการนัดหมายกับลูกค้าเพื่อเข้ารับบริการได้ มีระบบ Intelligent Emergency Call ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ติดต่อกับศูนย์บริการฉุกเฉินของบีเอ็มดับเบิลยูทางโทรศัพท์เพียงแค่กดปุ่ม SOS กรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ระบบเซ็นเซอร์การชนจะส่งสัญญาณแจ้งตำแหน่งพิกัดรถ หมายเลขตัวถัง ชนิดของการชน สถานะของถุงลมนิรภัย และเข็มขัดนิรภัย ไปยังศูนย์บริการโดยอัตโนมัติเพื่อการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
ผู้ใช้งาน BMW ConnectedDrive ยังสามารถเลือกใช้แอพพลิเคชั่นตามความต้องการ เช่น ระบบนำทางพร้อมข้อมูลการจราจรจาก Real-Time ฟังเพลงโปรดผ่านวิทยุออนไลน์กว่าหมื่นสถานีจากทั่วโลก ติดตามข้อมูลข่าวสารและสภาพอากาศล่าสุดจาก RSS feed ส่งข้อมูลนัดหมายการประชุมจากปฏิทินไปยังระบบนำทางในรถยนต์ แจ้งเตือนเวลาที่ควรออกเดินทางผ่านทางสมาร์ทโฟน หรือการแสดงภาพพื้นที่โดยรอบของรถที่จอดอยู่ด้วยภาพสามมิติ โดยสามารถเลือกมุมมองต่างๆ ได้ผ่านทาง iPhone