เปิดสเปก-ราคา!! Mercedes-AMG เปิดตัว 3 รุ่นสุดหรู ล่าสุดในไทย

วันนี้(16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่น คือ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé / Mercedes-Benz C 200 Coupé AMG Dynamic / Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+

นายโรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า นับตั้งแต่ Mercedes Benz ได้เปิดตัวแบรนด์ Mercedes-Amg ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ก็ได้นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับแถวหน้าของโลกแก่ลูกค้าในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยจากความมุ่งมั่นดังกล่าวทำให้ยอดขายรถยนต์ Mercedes AMG ทั่วโลกสูงกว่า 130,000 คันในปี 2560 ที่ผ่านมา

นายโรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

ด้านนายฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่าในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา Mercedes Benz มียอดขายเติบโตสูงขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 350%  เพื่อรักษาการเติบโตอย่างยั่งยืนบริษัทจึงดำเนินกลยุทธ์วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมรรถนะสูงอย่างต่อเนื่อง จึงได้เปิดตัวรถยนต์ Mercedes-AMG 2 รุ่นล่าสุด โดยบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแน่นอน

“สำหรับ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé เป็นรุ่นประกอบในประเทศ มาพร้อมรูปโฉมใหม่ตระกูล C Class มีการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์ เพิ่มเติมความหรูหราและความสปอร์ตภายในห้องโดยสาร ส่วน Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ จัดว่าเป็นรถยนต์ตัวแรงที่สุดที่เคยมีมาในตระกูล E Class ด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร 612 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.4 วินาที และสุดท้ายคือ Mercedes Benz C200 Coupe AMG Dynamic ซึ่งเป็นรุ่นประกอบภายในประเทศ ลักษณะสไตล์สปอร์ตคูเป้ เจเนเรชั่นล่าสุดในกลุ่มดรีมคาร์ สำหรับคนที่สนใจสามารถเข้าชมรถยนต์รุ่นนี้ได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-AMG” นายฟรังค์ ระบุ

Advertisement
นายฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่าสำหรับข้อมูลเป็น ที่ทาง Mercedes Benz ประเทศไทยเปิดเผย  มีดังนี้

Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé

Advertisement

ดีไซน์ภายนอก กระจังหน้า AMG ก้านคู่ตกแต่งด้วยสีเงินแบบด้าน ฝากระโปรงหน้าปรับแต่งด้วยเส้นสายใหม่ให้สวยงามกว่าเดิม โครงสร้างบังคับทิศทางลมที่ยกตัวขึ้นจากฝากระโปรงหน้าได้รับการออกแบบให้ช่วยควบคุมการไหลเวียนของลมที่ปะทะหน้ารถให้ดียิ่งขึ้น รวมถึง Skirt ข้างที่ดีไซน์ให้เข้ากับล้ออัลลอยน้ำหนักเบาจาก AMG โดยช่องลมและองศาก้านล้อได้รับการปรับปรุงอย่างละเอียดในอุโมงค์ลมเพื่อให้การไหลเวียนของอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมท่อไอเสียดีไซน์ใหม่

นอกจากนี้รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับประตูแบบไร้ขอบ กรอบกระจกมองข้างสีดำแบบลอยตัวจากตัวถัง ขอบตกแต่งสีดำเงาบริเวณด้านข้างตัวรถและกรอบหน้าต่าง เทคโนโลยีไฟหน้าแบบมัลติบีมแอลอีดี โดยจะมีหลอดไฟแอลอีดีถึง 19 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม เช่นระบบไฟส่องสว่างขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่ในเมือง ระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย รวมถึงหลังคา panoramic sunroof เลื่อนปิดเปิดได้ด้วยไฟฟ้า

ส่วนภายในเบาะที่นั่งเป็นวัสดุหุ้มหนังแท้ สามารถอุ่นเบาะได้ ส่วนระบบทำความเย็นปรับได้ 3 ระดับ เสริมพนักพิงหลังรับอีกทั้งสองข้างเพื่อป้องกันด้านข้างของผู้ขับขี่ขณะขับด้วยความเร็วสูง พนักพิงศีรษะออกแบบเป็นพิเศษ และยังมีแผงหน้าปัดแบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว โดยมีโหมดแสดงผลถึง 3 สไตล์ คือแบบคลาสสิค แบบสปอร์ตและ Progressive มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่าย มีความยืดหยุ่นสูงเพื่อให้สั่งการได้เร็ว ส่วนจอมัลติมีเดียมีขนาด 10.25 นิ้ว

ในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม มีระบบ หน้าจออุณหภูมิของเหลว ที่แสดงอุณหภูมิน้ำมันเครื่องน้ำมันเกียร์และแรงดันในโหมด Boost หน้าจอการตั้งค่ายังแสดงข้อมูลของโหมดการขับขี่ที่ใช้งานอยู่ การตั้งค่าระบบกันสะเทือน โหมดการปล่อยไอเสีย การตั้งค่าระบบ esp และเกียร์ที่ใช้อยู่

นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแรง G ซึ่งจะแสดงแรง G ปัจจุบันที่กดลงมายังตัวรถ เมื่อผู้ขับขี่ใช้ความเร็วในระดับใดๆและให้คำแนะนำในการขับขี่ให้เหมาะสม รวมถึงยังมีหน้าจอจับเวลา สำหรับการจับเวลาโดยผู้ขับขี่เองซึ่งสามารถจับเวลาต่อรอบพร้อมทั้งแสดงรอบที่ใช้เวลาน้อยสุดมากที่สุดได้ด้วย สุดท้ายคือหน้าจอข้อมูลเครื่องยนต์ ที่จะแสดงแรงบิดและกำลังเครื่องยนต์แบบกราฟแท่งรวมถึงแรงดันในโหมด Boost รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ AMG Dynamic Select ซึ่งมีให้เลือกถึง 5 โหมด คือ Comfort, Sport, Sport Plus, Individual และโหมดการขับขี่ใหม่คือ Slippery โดยจะกระจายกำลังให้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอและเหมาะสมกับสภาพถนนที่เปียกเพราะฝนหรือหิมะ

ด้านพละกำลังนั้นเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ V6 ปริมาตรกระบอกสูบคือ 2996 ซีซี แรงม้าสูงสุด 390 แรงม้า ที่ 6100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ราคา 4,220,000 บาท

 

 

 

Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+

คันนี้ เป็นรถยนต์สมรรถนะสูงในตระกูล E-Class ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 Turbo คู่ แรงม้าสูงสุด 612 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.4 วินาที นับเป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่เคยติดตั้งไว้ใน E-Class มาพร้อมระบบเกียร์ 9 สปีด ดีไซน์ภายในตกแต่งด้วยเบาะแบบ AMG performance seat ชุดหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว มีระบบไฟในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี และระบบเสียงรอบทิศทาง

ขณะที่ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี มีระบบ AMG Dynamic Select ระบบ PRE-SAFE ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า มีฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ มีระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า

เครื่องยนต์มีขนาด 3982 ซีซี แรงม้าสูงสุด 612 แรงม้า ที่ 5750 ถึง 6,500 รอบ ต่อนาที แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 2500 รอบถึง 4500 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ราคา 12,790,000 บาท

Mercedes-Benz C 200 Coupé AMG Dynamic

การออกแบบเน้นความสปอร์ตและการขับขี่ที่เพลิดเพลิน Design แผงหน้าปัดแบบดิจิตอลและระบบกันสะเทือน Dynamic Body control เครื่องยนต์ 4 สูบที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EQ Boost

ด้านดีไซน์ด้านนอก ด้านหน้าและท้ายรถใหม่มีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ Multibeam LED ระบบกันสะเทือนแบบ AMG Sport suspension Based on air Body control

ส่วนดีไซน์ภายในเพิ่มความหรูหราและสะดวกสบาย ด้วยเบาะนั่งแบบสปอร์ต แผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังชั่นดีไซน์ใหม่ โทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร มีให้เลือกถึง 64 สี ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง และหลังคาแก้วแบบ panoramic sliding sunroof

ส่วนระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยนั้น มีอุปกรณ์มาตรฐานมากมาย อาทิระบบ Attention assist ท้องถุงลมนิรภัย 7 ลูก 9 ตำแหน่ง

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบพร้อมเทอร์โบและ Inter Cooler ปริมาตรกระบอกสูบอยู่ที่ 1497 Cc แรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม.ใน 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 239 กม. ต่อ ชม.

ราคาอยู่ที่ 3,450,000 บาท

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image