สงสัยกันมานานว่าทำไม มาสด้าถึงไม่ทำรถพีพีวี หรือรถปิกอัพดัดแปลง อย่างเช่น ฟอร์จูนเนอร์ มิวเอ็กซ์ ปาเจโรสปอร์ต เอเวอเรสต์ เทอร์ร่า และเทรลเบลเซอร์ เหมือนค่ายรถอื่นที่มักนำรถปิกอัพของตนเองมาดัดแปลงเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ทั้งที่มาสด้าเองก็มีรถปิกอัพ บีที-50 วางขายในตลาดเหมือนกัน
ความจริงมาปรากฏเมื่อมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ประกาศเปิดตัว มาสด้า ซีเอ็กซ์-8 (Mazda CX-8) รถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์เอสยูวี แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง เป็นรถที่ประกอบขึ้นมาจากพื้นฐานของรถเก๋ง ไม่ใช่รถปิกอัพเหมือนค่ายอื่น เป้าหมายเพื่อเข้ามาแข่งขันกับรถพีพีวี หรือแม้แต่รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งอย่าง ฮอนด้า ซีอาร์-วี โดยตรง เพราะมีจุดเด่นในเรื่องความนุ่มนวล นั่งสบาย และกว้างขวาง
พูดง่ายๆ ว่ามาสด้ากำลังจะสร้างเซ็กเมนต์ใหม่ขึ้นมาในประเทศไทย โดยวางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน คือลูกค้ากลุ่มนักบริหารระดับสูง นักธุรกิจ เจ้าของธุรกิจ เป็นหัวหน้าครอบครัว
เมื่อวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2562 มาสด้าจัดให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับ ซีเอ็กซ์-8 เส้นทาง เชียงใหม่-เชียงราย
ซีเอ็กซ์-8 มาพร้อม 2 ทางเลือก ประกอบด้วย เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) ได้รับการปรับปรุงพัฒนาใหม่ พร้อมระบบวาล์วไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT และระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ขั้น ตอบสนองได้รวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิมในทุกรอบความเร็ว พละกำลัง 190 แรงม้าที่ 4,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตรต่อ 2,000 รอบต่อนาที สำหรับรุ่นเอ็กซ์ดีแอล เอ็กซ์คลูสีฟ (XDL EXCLUSIVE) มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ ไอ-แอคทีฟ-ออลวีลไดรฟ์ (i-ACTIV AWD) ช่วยปรับระบบการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพถนน อัตราบริโภคเชื้อเพลิง 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร
และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) ปรับปรุงพัฒนาใหม่ พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ ดูอัล เอส-วีที (Dual S-VT) พัฒนาให้ตอบสนองดีขึ้นเช่นกัน กำลังสูงสุด 194 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 258 นิวตัน-เมตร ต่อ 4,000 รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมัน 13.5 กิโลเมตรต่อลิตร
ในทุกรุ่นมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ จี-เวคเตอริ่ง คอนโทรล (G-Vectoring Control) หรือ GVC ช่วยให้การควบคุมขับขี่ได้แม่นยำและสมดุล ที่สำคัญทำให้ผู้โดยสารนั่งสบายขึ้น เพราะออกแบบโดยคำนึงถึงผู้โดยสารเป็นสำคัญ และจุดนี้คงเป็นทีเด็ดในการออกแบบรถรุ่นใหม่ของค่ายมาสด้าแทบทุกรุ่น
การออกแบบภายนอก ยังคงใช้ปรัชญา โคโดะ ดีไซน์ โซล ออฟ โมชั่น (KODO design : Soul of Motion) เน้นเรียบง่ายแต่พลิ้วไหว มีการลดทอนสิ่งไม่จำเป็นออกไป เลือกใช้เฉพาะวัสดุตกแต่งคุณภาพสูง ออกแบบรองรับการใช้งานได้หลากหลาย
รูปแบบของห้องโดยสารที่นั่งให้เลือก ทั้งแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง และแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง สำหรับห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง มาพร้อมเบาะที่นั่งแถวสองแบบ เอ็กซ์คลูสีฟ กัปตัน ซีท (Exclusive Captain Seat) 2 ที่นั่ง แยกซ้าย-ขวา มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น คอนโซลกลางที่เป็นทั้งกล่องเก็บของ ที่วางแก้วน้ำ ช่องยูเอสบี สำหรับชาร์จไฟ 2 ช่อง และม่านบังแดดที่ประตูคู่หลัง
ส่วนห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง มาพร้อมกับเบาะที่นั่งแถวสองแบบ 3 ที่นั่ง สามารถปรับพับแยกได้แบบ 60:40 พร้อมพนักวางแขน ที่วางแก้วน้ำ และช่องยูเอสบี สำหรับชาร์จไฟ 2 ช่อง ตอบโจทย์การใช้งานแบบครอบครัว เบาะที่นั่งแถวสามของทั้ง 2 แบบ รองรับผู้โดยสารที่มีความสูงได้ถึง 170 ซม. สามารถปรับพับแยกได้อย่างแบนราบแบบ 50:50 เพื่อวางสัมภาระ การตกแต่งภายในห้องโดยสารเลือกใช้สีโทนเข้ม วัสดุตกแต่งเรียลวู้ด (Real Wood) ผสมผสานกับสีเงินซาตินโครม มาพร้อมเบาะหนัง แนปป้า (Nappa) สีแดง ดีพ เเรด (Deep Red) ตัดเย็บด้วยเส้นด้ายสีน้ำตาลเข้ม
เบาะนั่งในตำแหน่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มาพร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า และระบบบันทึกตำแหน่งของเบาะ 2 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ ไทร โซน (Tri Zone) พร้อมแผงควบคุมบริเวณเบาะนั่งแถวที่สอง ระบบเสียงคุณภาพโบส (Bose) รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง รองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนผ่านระบบ มาสด้า คอนเนคต์ (Mazda Connect) มาพร้อม แอปเปิล คาร์เพลย์ (Apple CarPlay) แสดงข้อมูลผ่าน เซ็นเตอร์ ดิสเพลย์ (Center Display) จอสีแบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ เซ็นเตอร์ คอมมานเดอร์ (Center Commander)
เทคโนโลยีความปลอดภัย ไอ-แอคทีฟเซนส์ (i-Activsense) รอบคัน ช่วยคาดการณ์และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น
ระบบความปลอดภัยติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ได้แก่ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert)
นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ อาทิ ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 View Monitor), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Mazda Radar Cruise Control) อีกทั้งยังช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ขณะเดินทางไกล, ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Smart Brake Support) และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced Smart City Brake Support) เพิ่มขีดความสามารถในการตรวจจับคนเดินถนน
มีให้เลือก 6 สี ดังนี้ สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal), สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray), สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl), สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black), สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue) และ สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
ราคารุ่น 2.5 S สกายแอคทีฟ-จี 7 ที่นั่ง 1,599,000 บาท รุ่น 2.5 SP สกายแอคทีฟ-จี 7 ที่นั่ง 1,699,000 บาท รุ่น 2.2 XDL สกายแอคทีฟ-ดี 7 ที่นั่ง 1,899,000 บาท และรุ่น 2.2 XDL เอ็กซ์คลูสีฟ สกายแอคทีฟ-ดี 2.2 6 ที่นั่ง 2,069,000 บาท ตัวท็อปเบาะแถว 2 จะเป็นแบบกัปตันซีท มี 2 ที่นั่ง
โดยรวมแล้ว มาสด้า ซีเอ็กซ์-8 มาแบบครบ ทั้งความใหญ่ ความกว้างขวางในห้องโดยสาร อุปกรณ์อำนวยความสะดวก สมรรถนะเครื่องยนต์ ความแม่นยำของพวงมาลัย ช่วงล่าง ระบบความปลอดภัย และเรื่องราคา แต่น่าจะเหมาะกับรถวิ่งระยะทางไกลหรือในเมือง มากกว่าไปลุยๆ สมบุกสมบันแบบรถพีพีวี
งานนี้บอกได้เลยว่า ทั้งตลาดรถยนต์พีพีวี และเอสยูวี แบบครอบครัว สนุกแน่นอน เพราะมาสด้า ซีเอ็กซ์-8 ประกาศท้าทายมาซะขนาดนี้ เชื่อว่าคู่แข่งไม่ยอมน้อยหน้าแน่นอน
นายพล
