เปิดใจ “โนริอากิ ยามาชิตะ” ปธ.โตโยต้าคนใหม่ ปลุกดีลเลอร์ทั่วประเทศทวงแชมป์ตลาดรถคืน
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม ถึง 4 เมษายน 2564 ณ แชลเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนครั้งแรกหลังรับตำแหน่งแทน มิจิโนบุ ซึงาตะ กลับไปรับตำแหน่งที่ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ภายในงานมอเตอร์โชว์รอบสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายโนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดรถยนต์รวมในประเทศไทยในปีนี้ ด้วยมาตรการต่างๆ ของไทย ทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจปีนี้น่าจะกระเตื้องมากกว่าปีที่แล้วขึ้น จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ คาดว่าปีนี้น่าจะมียอดรวมประมาณ 8.5-9 แสนคัน เพิ่ม 7-14% จากปีที่แล้ว
เมื่อถามว่าขณะนี้ตลาดรถยนต์นั่งและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ โตโยต้าเคยขึ้นเป็นผู้นำ แต่ขณะนี้ไม่เป็นอันดับ 1 มีแผนจะปรับแผนการดำเนินงานอย่างไร
นายยามาชิตะ กล่าวว่า ปีที่แล้วช่วงโควิดมีการปรับตัวเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ของประชาชน ทำให้เราต้องเรียนรู้ตลาดยุคใหม่ เช่น ระบบออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง ใช้เอสเอ็มเอสติดต่อลูกค้า นำเสนอเงื่อนไขการเป็นเจ้าของรถยนต์ดาวน์น้อยก็ได้รถ นำเทคโนโลยีจีคอนเนคต์ ให้ข้อมูลรถยนต์ได้หลากหลายหลายรุ่น ทำให้ลูกค้าสะดวกในการซื้อมากขึ้นนอกจากนี้ในเรื่องของผลิตภัณฑ์ก็มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เช่น กระบะ ไฮลัก เปลี่ยนโฉมและไมเนอร์เชนจ์ช่วงปลายปี จะอาศัยกระแสความนิยมนี้ พยายามออกรถรุ่นพิเศษตอบสนองความต้องการลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้โตโยต้ามีเครือข่ายดีลเลอร์เข้มแข็งที่สุด และเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา โตโยต้าได้ประชุมดีลเลอร์ ทุกคนมั่นใจว่าจะสามารถทวงแชมป์กลับมาได้แน่
“ปีที่แล้วเกิดโควิด ยอมรับว่าแผนรองรับของเรายังไม่ดีพอ เราจะนำมาวิเคราะห์และปรับแผน เราจะพยายามเต็มที่ เพื่อกลับมาเป็นแชมป์ทุกตลาด” นายยามาชิตะ กล่าว
เมื่อถามว่าปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์กระทบกับอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก โตโยต้าได้รับผลกระทบนี้หรือไม่ นายยามาชิตะ กล่าวว่า ปัจจุบันไม่มีผลกระทบเกิดขึ้นแล้ว และจะประสานโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ไม่ให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
นายยามาชิตะ กล่าวถึงการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ อีวี ของโตโยต้าว่า รถอีวีเกิดขึ้นเพรากระแสลดปล่อยควันพิษทั่วโลก และคงจะเกิดในไทยแน่นอน เราจะพยายามทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลไทย สิ่งสำคัญต้องทำให้คนใช้ได้ง่าย และปัญหาต่างๆ ที่มีจะต้องร่วมกันช่วยแก้ไข รถไฟฟ้าจะเกิดได้เร็วแค่ไหน ขึ้นกับความต้องการของลูกค้าและโครงสร้างพื้นฐานที่จะเข้ามารองรับ โตโยต้าทำคนเดียวไม่สำเร็จ ต้องร่วมมือกัน สำหรับด้านเทคโนโลยี โตโยต้ามีความพร้อม ที่ผ่านมาเราพัฒนาเทคโนโลยีจนกระทั่งสามารถขายไฮบริดในปท.กว่า 1 แสนคัน ส่งออกกว่า 5 พันคัน ทำโรงงานประกอบแบตเตอรี่แพคเกจ และแปรรูปแบตเตอรี่เก่า
“เรามีเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าทุกรูปแบบ ปีที่แล้วเดือนธันวาคม เราได้จัดกิจกรรมพัทยาโมเดล เอารถยนต์ไฟฟ้าที่เรามีทุกรุ่นไปทดลองขับที่พัทยา เพื่อศึกษาว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะกับประเทศไทย ควรเป็นรุ่นไหน แต่ขอสงวนสิทธิ์ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะเอารถอะไรมาลงเมื่อไหร่รุ่นไหน” นายยามาชิตะกล่าว
เมื่อถามว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) รวบรวมความต้องการวัคซีนโควิดจากบริษัทต่างๆ โตโยต้าแจ้งความจำนงไปหรือไม่ นายยามาชิตะกล่าว สอท.ถามโตโยต้ามาและเราตอบไปแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีสื่อต่างประเทศเผยแพร่ข่าวว่ามีการส่งหลักฐานการติดสินบนของบริษัทลูกของโตโยต้าในประเทศไทยให้หน่วยงานรัฐสหรัฐอเมริกา ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายยามาชิตะกล่าวว่า เรื่องนี้ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่นได้ออกแถลงการณ์ไปแล้ว โดยระบุว่ากำลังตรวจสอบว่าโตโยต้าได้ปฏิบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดของรัฐบาลแต่ละประเทศที่โตโยต้าเข้าไปดำเนินธุรกิจครบถ้วนหรือไม่
นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงการปรับแผนการตลาดว่า สำหรับแผนปรับปรุงของโตโยต้าจะเน้น 2-3 เรื่อง.1.ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ การเข้าถึงผู้บริโภคในระบบออนไลน์เข้มข้นมากขึ้น จะทำอีซี่บาย คอนเนคเตดออโตโลน การดูแลลูกค้ากลุ่มเฉพาะ เพิ่มกิจกรรมออนกราวด์ กิจกรรมเรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต ดีลเลอร์จะร่วมมือกันกว้างขวางมากขึ้น รถเก๋งนั่งเราเข้มแข็งในกลุ่มสมอลล์ไฮ ลูกค้าหลักเป็นลูกค้าฟลีท ทำให้ที่ผ่านมาเมื่อเกิดโควิดทำให้ยอดขายแผ่วลง แต่เชื่อว่าต่อไปนี้จะกลับมาสดใสขึ้น ส่วนกลุ่มรถเก๋งกลางเรามีโคโรลา 1.8 ไฮบริด เป็นรถมีจุดเด่นเรื่องความคงทน และล่าสุดเพิ่มไลน์อัพ และจะทำแพคเกจรุ่น 1.6 เพิ่ม สำหรับอีโคคาร์ได้รับผลกระทบจากคู่แข่งเปิดตัวรุ่นใหม่ เพราะลูกค้ากลุ่มใหม่รถประเภทนี้เซนสิทีฟของใหม่ โตโยต้าจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่ชอบรถออกแบบตกแต่งทันสมัยในรุ่น ยาริส เอทีฟ ตอบรับดีขึ้น ทำให้ลูกค้าซื้อรถได้ง่ายขึ้น เชื่อว่ากิจกรรมต่างๆ จะเข้มข้นขึ้นลูกค้าสามารถซื้อรถได้ง่ายขึ้น
