เบนซ์ C 250 คูเป้ หรูเร้าใจอารมณ์สปอร์ต

พูดได้เลยว่า “มาเป็นชุด” สำหรับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่มาไม่ขาดระยะ เอาใจลูกค้ากระเป๋าหนักกันเต็มที่ เป็นลีลาของค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยุคใหม่

ล่าสุดเปิดตัว “เดอะ นิว ซี-คลาส คูเป้” (The new C-Class Coupe) ยนตรกรรมหรูเร้าใจสไตล์สปอร์ตคูเป้

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดรถประเภทนี้ไว้ในกลุ่ม ดรีม คาร์ (Dream Car) ปรับรูปโฉมใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น เห็นหน้าตารถแล้วช่างสะท้อนให้เห็นสไตล์ของเจ้าของได้ไม่ยากเย็นนัก

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเข้ามาเปิดตัว 2 ดีไซน์ด้วยกัน คือ C 250 คูเป้

Advertisement

เอเอ็มจี ไดนามิก (Coupe AMG Dynamic) และ C 250 คูเป้ อีดิชั่น วัน (Coupe Edition 1) รุ่น Edition 1 จะเป็นรุ่นพิเศษจำหน่ายถึงสิ้นเดือนธันวาคมปีนี้เท่านั้น

สำหรับดีไซน์ภายนอก มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ตั้งแต่ฐานล้อกว้างมากขึ้น 80 มิลลิเมตร ส่งผลให้ตัวถังรถมีความยาวกว่ารุ่นเดิม 95 มิลลิเมตร และกว้างกว่ารุ่นเดิม 40 มิลลิเมตร และจากความยาวตัวถังบริเวณจากผนังกั้นระหว่างห้องเครื่องและห้องโดยสาร (Firewall) จนถึงเพลาล้อหน้ายาวขึ้น 60 มิลลิเมตร ช่วยให้ส่วนกระจกของตัวรถมีลักษณะลาดลงต่ำที่ท่อนหน้าและยกตัวขึ้นอย่างทรงพลังในช่วงท่อนหลังของตัวรถ

ด้านหน้าของตัวรถออกแบบให้ฝากระโปรงดูยาว เมื่อรวมเข้ากับประตูแบบไร้ขอบ กระจกมองข้างแบบลอยตัวจากตัวถัง และเส้นสายด้านข้างตัวรถยาวลงไปถึงซุ้มล้อหลัง ทำให้รูปโฉมภายนอกดูแข็งแกร่ง โฉบเฉี่ยวมากขึ้น

Advertisement

ตัวรถที่มีน้ำหนักเบาลงถึง 50 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับเจเนอเรชั่นก่อนหน้านี้ เป็นผลมาจากการพัฒนาโครงสร้างตัวถังให้มีน้ำหนักเบา โดยใช้อะลูมิเนียมเป็นองค์ประกอบหลักผสมกับเหล็กกล้า ตลอดจนชิ้นส่วนต่างๆ ของรถ อาทิ กันชน ฝากระโปรงหน้าและหลัง ก็ใช้อัลลอยน้ำหนักเบาเป็นส่วนประกอบหลักในการผลิตเช่นเดียวกัน

สำหรับ C 250 Coupe AMG Dynamic จะเพิ่มความสปอร์ต มาพร้อมกับชุดแต่ง AMG อาทิ กันชนและสเกิร์ตข้างแบบเอเอ็มจี กระจังหน้าลายเพชร หรือไดมอนด์ กริลล์ (diamond grille) และล้ออัลลอยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 19 นิ้ว ขณะที่ C 250 Coupe Edition 1 มาพร้อมชุดแต่งรอบคันทั้งภายนอกและภายใน

ดีไซน์ภายใน ตกแต่งให้ดูเรียบง่ายแต่เคร่งขรึม แฝงสไตล์สปอร์ตเพิ่มขึ้นด้วยพวงมาลัยสปอร์ตมัลติฟังก์ชั่นแบบท้ายตัด ระบบไฟส่องสว่างในห้องโดยสารและระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารเป็นอุปกรณ์เสริมทั้ง 3 โทนสี คือ สีโซลาร์ (เหลืองอำพัน) สีโพลาร์ (ไอซ์บลู) และสีกลาง (โทนขาว) ใช้หลอดไฟ LED ประหยัดพลังงานและใช้ได้ยาวนานกว่าเดิม รวมถึง ทัชแพด บริเวณที่พักแขนช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้นิ้วสัมผัสเพื่อควบคุมหรือเลือกใช้งานคุณสมบัติต่างๆ ของระบบมัลติมีเดียได้สะดวก

ภายในห้องโดยสารออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางกว่ารถคูเป้ทั่วไป ตั้งแต่คอนโซลกลางไปจนถึงส่วนประตูและพื้นที่ด้านหลังตัวรถ เบาะที่นั่งแบบสปอร์ตออกแบบ เพื่อรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ ช่วยให้ห้องโดยสารดูกว้างขึ้นจากสีของหนังหุ้มเบาะหลากสีสัน ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำตาล แซดเดิล บราวน์ (Saddle Brown), สีดำ พอร์ซเลน, สีแดง เบงกัล เรด (Bengal red), และสีเทา

37

นอกจากนี้ ยังมีสวิตช์เลื่อนเบาะที่นั่งด้านหน้าสำหรับการเข้าหรือออกจากห้องโดยสารของผู้โดยสารตอนหลัง ตลอดจนเบาะที่นั่งตอนหลังเป็นแบบเบาะแยก 2 เบาะ และมีระบบป้อนเข็มขัดอัตโนมัติ (automatic belt feeders) สำหรับผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า เป็นครั้งแรกในรถยนต์รุ่น C-Class Coupe

ส่วนรุ่น C 250 Coupe AMG Dynamic ภายในตกแต่งด้วยหนังและเดินด้ายสีโดดเด่น พวงมาลัยสปอร์ตมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านแบบสปอร์ตท้ายตัดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงแป้นคันเร่งและเบรกของเอเอ็มจี แผงควบคุมตกแต่งขอบด้วยลายไม้สีดำด้าน บริเวณแผงหน้าปัดและประตูตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมเพื่อความสวยงาม

C 250 Coupe Edition 1 บริเวณคอนโซลกลางมีการเก็บขอบด้วยลายไม้สีดำด้าน ผสานด้วยการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมบริเวณแผงควบคุมและประตู มีตราสัญลักษณ์ “Edition 1” แป้นคันเร่งและเบรกโดยเอเอ็มจี ผลิตจากสแตนเลส และมีแถบยางสีดำป้องกันการลื่น เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนัง อาร์ติโก (ARTICO) สลับ ไดนามิกา ไมโครไฟเบอร์ (DINAMICA microfibre) สีน้ำตาลสลับดำ และเดินด้ายสีเทอร์ควอยซ์ พรมในห้องโดยสารเป็นสีน้ำตาล ปักด้วยด้ายสีเทอร์ควอยซ์

C-Class Coupe มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุกระบอกสูบ 1991 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,200-4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ เซเว่นจี-ทรอนิก พลัส (7G-TRONIC PLUS)

สามารถปรับตั้งโหมดการขับได้ตามต้องการจากปุ่มกดเลือกระบบไดนามิก ซีเล็กบนแผงหน้าปัด มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 5 แบบ ได้แก่ อีโค่ (ECO) คอมฟอร์ต (Comfort) สปอร์ต (Sport) สปอร์ตพลัส (Sport+) และปรับตั้งค่าเอง (Individual) หากผู้ขับขี่เลือก “โหมดปรับตั้งค่าเอง”

38

จะสามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ตามความพึงพอใจ

C 250 Coupe AMG Dynamic ราคา 3,790,000 บาท ส่วน C 250 Coupe Edition 1 ราคา 3,390,000 บาท

โดยรวมแล้วรุ่นนี้คงไม่ต้องสาธยายอะไรมาก ในแง่ความลงตัว เพราะเบนซ์ก็คือเบนซ์วันยันค่ำคืนยันรุ่ง ทั้งในเรื่องสมรรถนะรูปร่างหน้าตาและราคา ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น เพียงแต่รุ่นนี้ให้อารมณ์โฉบเฉี่ยวเร้าใจเพิ่มขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ใจถึงๆ หน่อย แค่นั้นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image