‘คลัง-สปก.-กทบ.’ จัดสรรที่ดิน-ทุน ช่วยลดเหลื่อมล้ำ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เชิญกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ …และคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการ กทบ.ร่วมแถลงข่าวเรื่อง “การใช้ประโยชน์ที่ของทางราชการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประโยชน์สูงสุด”

ยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ นำร่องแถลงว่า กรมธนารักษ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ มีข้อตกลงร่วมกันในการนำที่ดินของราชการมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ในระดับชุมชน และสังคม ซึ่งแนวทางนี้เป็นนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากตั้งแต่ระดับชุมชนให้มีความเข้มแข็ง

ขณะนี้กรมธนารักษ์มีที่ราชพัสดุ 12.6 ล้านไร่ ในจำนวนนี้ให้หน่วยงานราชการต่างๆ เช่ากว่า 10 ล้านไร่ ดังนั้นกรมจะไปดูว่าหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เช่าที่ดินไปนำที่ดินเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์หรือไม่ หากพบว่าไม่มีการนำไปใช้ประโยชน์ จะเรียกที่ดินคืน ล่าสุดยึดคืนแล้วกว่า 50,000 ไร่
หลังจากนี้ กรมธนารักษ์นำที่ราชพัสดุไม่ได้ใช้ประโยชน์มาพิจารณาว่าเหมาะกับการนำไปให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เช่า และให้ ส.ป.ก.นำไปมอบให้เกษตรกรทำประโยชน์ต่อไปเท่าใด

เบื้องต้นกรมธนารักษ์จะให้ ส.ป.ก.เช่าระยะยาว 30 ปี คิดอัตราค่าเช่า 200 บาท/ไร่/ปีเท่านั้น โดยกำหนดให้เกษตรกรครอบครองที่ดินราชพัสดุไม่เกินคนละ 10 ไร่ และเมื่อปล่อยเช่าให้ ส.ป.ก.นำไปมอบใช้เกษตรกรทำประโยชน์แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงไปช่วยดูแลเรื่องสาธารณูปโภค เช่น แหล่งน้ำ และไฟฟ้า ส่วนด้านเงินทุนมีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสินเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อเพื่อสนับสนุนเกษตรกร

Advertisement

“ความร่วมมือกันทั้ง 3 หน่วยงานครั้งนี้ จะช่วยเหลือประชาชนฐานรากตรงเป้าหมายมากขึ้น เพราะเดิมต่างคนต่างทำ จึงอาจช่วยเหลือไม่ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะนำร่องส่งมอบที่ดินราชพัสดุของกรมธนารักษ์และที่ดินของ ส.ป.ก.ร่วมกัน เพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช” อธิบดีกรมธนารักษ์ แจกแจงรายละเอียดโครงการความร่วมมือครั้งนี้

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตร ระบุว่า ความร่วมมือกันครั้งนี้ เป็นการขับเคลื่อนนโยบายให้เกษตรกรเข้าถึงที่ดินทำกิน ลดความเหลื่มล้ำ โดยให้ประชาชนมีพื้นที่อยู่อาศัยและที่ดินทำมาหากิน สามารถช่วยเศรษฐกิจฐานรากได้ โดย ส.ป.ก.จะเช่าที่ดินของกรมธนารักษ์ ในราคา 100-200 บาท/ไร่/ปี เพื่อนำที่ดินที่เช่าไปจัดสรรให้กับเกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกิน พร้อมนำสาธารณูปโภคพื้นฐานเข้าไปพัฒนาพื้นที่ให้เกษตรกรพร้อมประกอบอาชีพเกษตรกรรม

“เตรียมให้กองทุนจัดสรรที่ดินที่ ส.ป.ก. ซึ่งมีเงินประมาณ 900 ล้านบาท เช่าที่กรมธนารักษ์ นำไปแจกให้เกษตรกรทำกิน โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ มอบนโยบายให้ ธ.ก.ส.และธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อ เพื่อสนับสนุนเกษตรกร โดยจะส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจ อาทิ ไม้สักทอง พะยูง เพราะเมื่อต้นไม้เติบโตสามารถเปลี่ยนเป็นทรัพย์สิน หรือค้ำประกันเงินกู้ได้” ร.อ.ธรรมนัสระบุ

ร.อ.ธรรมนัสยังบอกว่า สำหรับที่ดินของ ส.ป.ก.นั้น ที่ผ่านมามีการมอบเอกสารสิทธิให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ให้กับเกษตรกรแล้ว 600,000 ไร่ จากพื้นที่ ส.ป.ก.ทั้งหมดทั่วประเทศ 40 ล้านไร่

ขณะที่ รักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เผยว่า จะกำหนดทิศทางการใช้เงินในกองทุนหมู่บ้านทั้ง 80,000 แห่งให้ชัดเจน ว่าควรจะสนับสนุนอาชีพอะไรบ้างในชุมชน เพื่อให้เงินของกองทุนหมู่บ้านสนับสนุนได้ตรงกลุ่ม

ด้าน ประยุทธ วรรณพรหม ประธานเครือข่ายที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ความเห็นถึงโครงการดังกล่าวว่า ยังเป็นแนวคิด ยังไม่มีความชัดเจน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนต้องคิดให้รอบคอบ การจะเอาที่ดินธนารักษ์ มอบเป็น ส.ป.ก.ได้นั้นจะต้องทำประชาคมก่อนภายใน 180 วัน ซึ่งที่ดินธนารักษ์ของนครศรีธรรมราชมีอยู่ที่ ต.จันดี ต.ละอาย อ.ฉวาง ซึ่งที่ดินเหล่านั้นมีประชาชนครอบครองอยู่ หากกรมธนารักษ์เอาที่ดินนั้นให้ ส.ป.ก.โดยไม่บอกให้พี่น้องประชาชนทราบก็จะเกิดปัญหาได้

“วันนี้ท่าน ร.อ.ธรรมนัสเองก็พยายามแก้ปัญหาเรื่องที่ดินให้เกษตรกรอยู่ทั่วประเทศ ที่เดินกันมาแล้วไม่ว่าจะเป็นที่สุราษฎร์ธานี กระบี่ ก็ยังเดินไม่ได้ เพราะยังติดข้อกฎหมาย ส่วนที่นครศรีธรรมราชยังเดินหน้าได้ เพราะมีเครือข่ายที่ดินที่เข้มแข็ง ประสานกับท้องถิ่น ท้องที่ เพื่อทำประชาคม เอาที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งเลี้ยงสัตว์นำไปให้ ส.ป.ก.ไปปฏิรูปให้กับเกษตรกรผู้ถือครอง

“วันนี้ทางเครือข่ายจึงทำเพียงที่ดินสาธารณประโยชน์อยู่ ยังไม่ได้ขยายไปยังดินป่าสงวน หรือดินราชพัสดุ ซึ่งเป้าหมายจะต้องทำถึง 24 พื้นที่ใน 18 ตำบล 7 อำเภอก่อน ประมาณ 12,500 แปลง แต่ต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด จากนั้นก็ได้ส่งต่อให้ ส.ป.ก.ดำเนินการต่อไป” ประธานเครือข่ายที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุส่วนโครงการที่กรมธนารักษ์ ส.ป.ก.และ กทบ.จะร่วมมือกันนั้น คงต้องรอดูรายละเอียดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือระหว่างที่กรมธนารักษ์ ส.ป.ก.และ กทบ.ที่จะนำที่ดินราชพัสดุจัดสรรให้เกษตรกร พร้อมอุดหนุนด้านสาธารณูปโภคและเงินทุนให้เกษตรกร เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้เกษตรกรมีที่ดินทำกิน ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรอดูว่าโครงการความร่วมมือนี้จะเดินไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้มากน้อยแค่ไหน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image