เปิดกล่องของขวัญ เศรษฐกิจ 2022 พร้อมเทใจ รอมาตรการ ‘รัฐเจ้ามือ-โคเพย์’

เปิดกล่องของขวัญ เศรษฐกิจ2022 พร้อมเทใจ รอมาตรการ ‘รัฐเจ้ามือ-โคเพย์’

เปิดกล่องของขวัญ เศรษฐกิจ 2022 พร้อมเทใจ รอมาตรการ ‘รัฐเจ้ามือ-โคเพย์’

นับถอยหลังอำลาปีเก่า 2564 เข้าปีใหม่ 2565 เหลือเวลาอีกแค่ 2 สัปดาห์ ทำให้ช่วงนี้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะประชาชน นักธุรกิจ นักวิชาการ ต่างจับตาและรอลุ้นของขวัญปีใหม่ 2565 ปีเสือที่จะถึงนี้ว่ารัฐบาลจะเซอร์ไพรส์อะไร จะต้องตาตรงใจแค่ไหน แม้หลายฝ่ายเริ่มมีความมั่นใจแล้วว่าประเทศไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ต่อสถานการณ์ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ตอนนี้กลายพันธุ์เกิดสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” บางส่วนก็ตื่นตระหนก บางส่วนก็มองว่าเป็นความคุ้นชินที่ต้องอยู่กับสถานการณ์นั้นๆ ให้ได้ ภาพรวมจึงเป็นภาวะกล้าๆ กลัวๆ ประกอบกับผลกระทบสะสมช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กำลังซื้อที่ยังไม่เต็มร้อยเหมือนเดิม ดังนั้น ความหวังต่อของขวัญที่รัฐบาลจะออกมาไม่เกินสัปดาห์หน้าจึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด!!

  • โอไมครอนฉุดศก.ฟื้นช้า

ตามมุมมองของ นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ ให้ความเห็นว่า ตอนนี้มีความไม่แน่นอนพอสมควรว่าผลกระทบของโอไมครอนจะเยอะมากน้อยแค่ไหน ประเด็นตอนนี้มีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายปนกันอยู่ เพราะล่าสุดวัคซีน mRNA ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดยังต้องใช้เข็มที่ 3 จึงจะต้านอยู่ ฉะนั้น ถ้ามีการแพร่ระบาดในไทยถือว่ามีความเสี่ยงมาก เมื่อเทียบกับประเทศที่มีการใช้วัคซีน mRNA อยู่แล้ว จึงเป็นอีกหนึ่งโจทย์สำคัญที่รัฐต้องเร่งจัดหาวัคซีนให้ครบโดส ปัญหาก็จะหมดไปเร็วขึ้น

อย่างไรก็ดี แม้ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากโอไมครอน แต่การมาของสายพันธุ์นี้ก็เป็นตัวฉุดเศรษฐกิจโลกที่กำลังจะกลับฟื้นคืนและผ่อนคลายทันที เห็นได้จากก่อนหน้านี้หลายประเทศเริ่มเปิดให้เข้าชมการแข่งขันฟุตบอลและการท่องเที่ยวแล้ว แต่พอโอไมครอนเข้ามาทำให้ภาพเหล่านี้เสีย เป็นผลให้ประเทศต่างๆ เริ่มกลับมาใช้มาตรการเข้มงวดมากขึ้น และทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าเสียหายไปขนาดไหน แต่อย่างน้อยก็ทำให้เศรษฐกิจเติบโตดีเลย์ไป 1 ปี 2 เดือน หรืออาจจะมากกว่านั้น หากพบว่าสายพันธุ์ดังกล่าวเกิดการแพร่ระบาดที่รวดเร็วและรุนแรงเทียบเท่าสายพันธุ์เดลต้าก็จะน่ากลัว แต่ถ้าพบว่าเป็นเพียงการแพร่ระบาดแบบรวดเร็วแต่ไม่รุนแรง เชื่อว่าจะจบเร็วขึ้นและกลับเข้ามาสู่การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวใหม่อีกครั้ง

  • ค้านปัดฝุ่นโครงการช้อป

ส่วนเรื่องการออกแพคเกจของขวัญปีใหม่ของรัฐบาลนั้น เนื่องจากโอไมครอนยังมีการแพร่ระบาดนอกประเทศไทย ดังนั้น รัฐบาลไทยควรเน้นเรื่องการท่องเที่ยวในประเทศ อาทิ การต่ออายุโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยทำอย่างไรให้ภาครัฐกระตุ้นให้ภาคท่องเที่ยวสามารถเดินหน้าไปได้ ตอนนี้อย่าเพิ่งเน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ควรสนับสนุนการเที่ยวในประเทศเป็นหลักก่อน รวมทั้งอยากให้เปิดธุรกิจกลางคืนเพื่อให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้กลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้งด้วย

Advertisement

สุดท้ายเรื่องที่รัฐจะต้องมอบเป็นของขวัญให้กับประชาชนคือ การลดค่าน้ำ ค่าไฟ การเติมเงินเข้าโครงการคนละครึ่ง ซึ่งเป็นโครงการที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ไม่อยากให้เดินหน้าโครงการที่ไม่มีประสิทธิภาพอย่างโครงการช้อปดีมีคืน และช้อปช่วยชาติ เนื่องจากโครงการดังกล่าวไม่ใช่เงินใหม่เกิดขึ้น และโครงการนี้ออกแบบมาให้เหมาะกับคนมีกำลังซื้อสูง ส่วนร้านค้าที่เข้าร่วมเองก็เป็นร้านค้าที่ต้องมีกำลังซื้อสูงจึงจะสามารถซื้อสินค้าเช่นกันอีกทั้งในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 กลุ่มคนมีรายได้สูงไม่ใช่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว ดังนั้น รัฐควรออกโครงการที่เน้นช่วยเหลือคนชั้นกลางและคนชั้นล่าง หรือกลุ่มนักธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจกลางคืนก่อน และต้องดีไซน์ให้ถูกกลุ่ม

ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องหาทางสร้างรายได้ให้กับประชาชน เมื่อพูดถึงการฟื้นตัว ภาครัฐต้องมาจับตามองว่าอุตสาหกรรมของเราอันไหนที่ยังเดินหน้าได้ก็ต้องสนับสนุนให้ธุรกิจเหล่านี้เข้าถึงสินเชื่อ หลังจากนั้นภาครัฐต้องอุดหนุน โดยการเข้ามาดูแลเรื่องสภาพคล่องและช่วยในลักษณะรัฐร่วมจ่าย (copay) บางส่วน นอกจากนี้ ต้องมีการเพิ่มทักษะแรงงานเพื่อเตรียมพร้อมรับกับอนาคตและสามารถสร้างรายได้ต่อไป

  • ลดค่าเดินทางหนุนไทยเที่ยว

อีกมุมมอง วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ให้ความเห็นว่า ของขวัญปีนี้ยังอยากให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการที่รัฐบาลเคยทำ อาทิ โครงการคนละครึ่ง เพื่อช่วยให้กลุ่มคนมีรายได้น้อยได้มีเงินมาจับจ่าย และเป็นประโยชน์กับผู้ค้ารายย่อย นอกจากนี้อยากให้รัฐบาลดูแลช่วยเหลือประชาชนในเรื่องของการลดภาระค่าเดินทาง หรือค่าทางด่วน เนื่องจากในปัจจุบันหลายบริษัทเริ่มกลับมาทำงานเป็นปกติแล้ว และควรช่วยเหลือในเรื่องของค่าเช่าพื้นที่ขายสินค้าให้กับผู้ค้ารายย่อยที่ต้องเริ่มหาพื้นที่ขายสินค้าใหม่

Advertisement

สำหรับของขวัญของผู้มีรายได้ระดับกลางและระดับสูงรัฐบาลควรปัดฝุ่นโครงการช้อปดีมีคืน มองว่าเป็นจังหวะที่ดีที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายของคนกลุ่มนี้ นอกจากนี้ อยากให้ต่ออายุโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทัวร์เที่ยวไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศต่อเนื่อง

ส่วนความกังวลเรื่องโอไมครอนเริ่มชัดเจนแล้วว่าสายพันธุ์นี้แม้จะแพร่ระบาดเร็ว แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิต เพราะตอนนี้ในหลายประเทศมีการฉีดวัคซีนมากขึ้นแล้ว เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วกว่า 60% ของประชากร และหวังว่าในช่วงต้นปี 2565 ประชาชนจะได้บูสต์วัคซีนเข็มที่ 3 อย่างทั่วถึงต่อไป ส่วนประเทศที่ยังเข้าถึงวัคซีนไม่ได้ กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วต้องเร่งส่งวัคซีนไปช่วยเหลือเพื่อเป็นการคุมเชื้อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดกระจายตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรงไปยังประเทศอื่นๆ อีกด้วย

  • หนุนคนละครึ่งเฟส4

สำหรับมุมมองของ ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) ระบุว่า ของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลเตรียมออกมานั้น คาดว่าน่าจะเป็นการเดินหน้าผลักดันโครงการเดิมที่มีอยู่ อาทิ โครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 ที่โดนใจทั้งคนซื้อและคนขาย เพราะเข้าถึงเม็ดเงินได้จริง แต่ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังแบ่งรับแบ่งสู้เพราะกังวลเรื่องงบประมาณ แต่ในอีกมุมหนึ่งมองว่ารัฐบาลน่าจะผลักดันให้เกิดโครงการนี้จนได้เนื่องจากช่วงกลางปี 2565 อาจได้เห็นการเลือกตั้ง ต้องเร่งคิดเพื่อซื้อใจประชาชนจากโครงการที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด

นอกจากนี้ อยากให้รัฐบาลนำโครงการธงฟ้าของกระทรวงพาณิชย์มาปัดฝุ่นอีกครั้ง เพื่อจำหน่ายของถูกให้กับประชาชนมอบเป็นของขวัญปีใหม่ส่งท้ายปี อาจร่วมมือกับร้านค้าปลีกในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ หรือร่วมกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ อาทิ บิ๊กซี โลตัส และแม็คโคร โดยใช้วิธีขอพื้นที่หรือเช่าพื้นที่จัดโซนขายของธงฟ้า ดีกว่าการเปิดบูธขาย ถ้าไม่มีการประชาสัมพันธ์ที่ดีประชาชนบางกลุ่มก็ไม่สามารถเข้าถึงได้เลย แนะนำว่าควรใช้เวลาในการจำหน่ายประมาณ 3 เดือน รัฐต้องปักหมุดนำสินค้าในประเทศที่ยังขายไม่ได้เต็มที่ รัฐก็ต้องขอความร่วมมือผู้ผลิตเหล่านั้น รวมถึงรัฐควรดึงสินค้าภาคเกษตรที่ไม่มีพื้นที่ขายนำมาจำหน่ายในโครงการดังกล่าวด้วย หากสามารถดำเนินการได้เชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้ใจทั้งประชาชน เกษตรกร และผู้ผลิตสินค้าแน่นอน

ซึ่งธนิตกล่าวตบท้ายว่า ของขวัญปีใหม่ที่ดีที่สุดในปี 2565 สำหรับประชาชนคือการเลือกตั้งใหม่ ตอนนี้หลายฝ่ายอยากเห็นการล้างไพ่ เพราะรัฐสภาเริ่มเกิดความวุ่นวาย ตอนนี้ประชาชนและภาคเอกชนอยากเห็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพเป็นของขวัญปีใหม่ เพื่อเริ่มสิ่งใหม่ๆ ที่ดีกว่าในปี 2565 อีกด้วย

ท้ายที่สุดแล้ว รัฐบาลจะเตรียมของขวัญกล่องใหญ่เซอร์ไพรส์ประชาชน หรือประชาชนต้องยิ้มแห้งกับสิ่งที่รัฐมอบให้ คงต้องรอลุ้นผลพร้อมกันหลังประชุม ครม.กลางเดือนธันวาคมนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image