เศรษฐกิจไทย’67 เปรียบ ‘มังกรดิน’ ล้มลุกคลุกคลาน ต้องมีสตอรี่ให้บิน

เศรษฐกิจไทย’67เปรียบ‘มังกรดิน’ ล้มลุกคลุกคลาน ต้องมีสตอรี่ให้บิน
จิติพล พฤกษาเมธานันท์

เริ่มต้นทำงานวันแรก 2 มกราคม 2567 ปีมังกร ทุกภาคส่วนต่างมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะกลับมาเติบโตขึ้น ภายใต้เศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว กอปรกับรัฐบาลเศรษฐา 1 ที่ออกแรงขับเคลื่อนเต็มที่ แม้จะต้องลุ้นเฮือกใหญ่ว่า มาตรการเศรษฐกิจสำคัญอย่างการแจกเงินดิจิทัลจะราบรื่นหรือสะดุด เพราะทั้งหมดล้วนมีอิมแพกต์รุนแรงต่อเศรษฐกิจไทย

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยปี 2567 ว่า การขยายตัวชะลอลงจากจุดอ่อน คือ 1.ถ้าเศรษฐกิจประเทศจีนชะลอและไม่ฟื้นตัวอย่างที่คาดการณ์ไว้ จะเป็นความท้าทายของเศรษฐกิจไทย ต้องดูว่ารัฐบาลจะมีการแก้ไขปัญหานี้และจะจัดการอย่างไร

2.นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล เพราะเชื่อว่าแต่ละนโยบายนั้นอยู่กับความคาดหวังกับการให้ความสำคัญของแต่ละนโยบาย เนื่องจากนโยบายที่มีความคาดหวังสูงมาก แต่ไม่รู้ว่าจะได้ทำหรือไม่อาทิ มาตรการแก้หนี้ มองว่าเวิร์กมาก แต่ไม่แน่ใจว่ามีความตั้งใจทำขนาดไหน จึงต้องติดตามดูต่อไป

ขณะที่นโยบายที่รัฐบาลดูแล้วตั้งใจทำ แต่ไม่ได้มีความคาดหวังสูงมาก อาทิ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่ทุกคนต่างบอกว่ามันไม่เวิร์ก มีความเสี่ยงเมื่อมันไม่เวิร์กรัฐบาลจะทำอย่างไรต่อไป จะออกเงื่อนไขใหม่ หรือยกเลิก ล้วนมีผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ นโยบายเรื่องการเงินของไทยสามารถดำเนินการได้ขนาดไหน ถ้ามองเชิงเศรษฐกิจ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังไม่ได้สูงเกินไปและลดลงได้ก็จริง แต่ไม่สามารถช่วยเศรษฐกิจได้มาก เพียงแต่ภาคการเงินมีองค์ประกอบหลายอย่าง อาทิ ตลาดหุ้นไม่ดี ค่าเงินบาทอ่อน สิ่งเหล่านี้จึงต้องดูไปพร้อมกัน

“ถ้าโดยรวมดูแล้วไม่ดี ส่งผลให้เงินจากต่างชาติไม่เข้า ฟันด์โฟลว์ไม่มา คนกู้ไม่ได้ หรือรีไฟแนนซ์ไม่ได้ นโยบายการเงินควรจะผ่อนคลายในรูปแบบใดก็เป็นความท้าทายอีกปีหนึ่ง เพราะถ้าปล่อยลักษณะนี้ต่อไป ปีหน้าเศรษฐกิจจะเหมือนเดิม การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ หรือโลนโกรท จะลดลง เพราะจุดอ่อนหลักๆ ที่เห็นชัดมากคือเรื่องการปล่อยกู้ของแบงก์ยากขึ้น จะส่งผลให้ผู้ขอสินเชื่อทำธุรกิจไม่ได้” นายจิติพลย้ำ

ADVERTISMENT

นายจิติพลประเมินอีกว่า มองคร่าวๆ ดัชนีหุ้นปี 2567 อาจอยู่ที่ราว 1,400 จุด ค่อนข้างต่ำแล้ว และปีหน้าจะไม่ไหลลงลึกกว่านี้ ปัญหาคือจะขึ้นไปได้เยอะขนาดไหนหลักๆ อาจจะอยู่ที่ราว 1,600-1,650 จุด เป็นจุดที่อยู่ขอบบนแล้วและเป็นช่วงที่ตรึงที่สุด แต่ถ้าสถานการณ์ของเศรษฐกิจไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดัชนีหุ้นจะเคลื่อนไหวในระดับนี้ และมองแถวกลางๆ ดัชนีหุ้นจะอยู่ประมาณ 1,560 จุด

โดยหุ้นจะขึ้นได้ดีที่สุดคือ 1.เศรษฐกิจดี แต่ปีหน้าเจอเศรษฐกิจโลกไม่ดี เศรษฐกิจไทยก็ทรงๆ ไม่ได้ดูดีมาก โอกาสที่ดัชนีหุ้นจะกลับขึ้นไปหวือหวาอันนี้ไม่ง่าย 2.ราคาเริ่มต้นที่ระดับค่อนข้างถูก และมีความคาดหวังต่ำมาก ดังนั้น ไม่ยากที่ดัชนีหุ้นจะขึ้นเช่นกัน การเคลื่อนไหวจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับทั้ง 2 ส่วนนี้ด้วย

ทั้งนี้ คาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อยู่ที่ 4% รวมกรณีเดินหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทสำเร็จ เพราะคิดว่ามาตรการนี้จะเกิดขึ้นได้จริง แต่ปัญหาคือจะดำเนินการได้ในช่วงใดเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจช่วงไตรมาส 2 กับไตรมาส 3 แตกต่างกันแค่ 0.1% เพราะถ้าดิจิทัลวอลเล็ตได้ดำเนินการจะเสริมเศรษฐกิจได้ 20-30% ทำให้จีดีพีขยายตัวเพิ่ม 0.3-0.4% แต่ถ้าไปออกไตรมาส 4 เสริมเศรษฐกิจได้ 20% ก็อาจจะบวกน้อยหน่อยแต่ต่างกันไม่มาก

นอกจากนี้ ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากปี 2566 ที่การบริโภคภาคเอกชนดีมาก แต่การลงทุนภาครัฐชะลอตัวลง เนื่องจากการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ จึงมองว่าเมื่อสถานการณ์ปกติแล้ว ปี 2567 การใช้จ่ายรัฐบาลในโครงการต่างๆ จะกลับมาได้หมดและควรจะทำได้

ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก อาจส่งผลต่อจิตวิทยา แต่ไม่มีผลด้านจีดีพี อาทิ ไม่มีผลต่อคนอายุ 20-30 ปี และอายุ 40 ปีมองว่าจะไม่เกิดเช่นกัน

ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวเศรษฐกิจต่างประเทศ อาทิ การเลือกตั้งในสหรัฐ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ยังเป็นเรื่องไม่ไกลตัวกับเศรษฐกิจไทย แต่เร็วไปที่จะวิเคราะห์ว่าไทยจะได้รับผลกระทบอะไร

เนื่องจากปี 2566 เห็นแล้วว่าถ้าเหตุการณ์นั้นไม่ใหญ่จริง เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะจบเร็ว เพราะถ้าเรื่องเกิดในเศรษฐกิจไม่ดี สุดท้ายความสนใจของคนจะมาอยู่ที่เรื่องเศรษฐกิจและต้องแก้ไข

“ปี 2567 ภาพรวมคำจำกัดความมองว่าเศรษฐกิจไทยจะเป็นมังกรดิน เพราะยังล้มลุกคลุกคลานอยู่กับพื้น และยังบินไม่ได้ เพราะไม่มีปีก อาจจะเป็นมังกรที่วิ่งอยู่กับกรอบ จึงต้องหาสตอรี่ว่าเศรษฐกิจจะไปอย่างไร แรงส่งคืออะไรยังไม่เห็น มังกรอาจจะลอยอยู่ข้างล่าง” นายจิติพลทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image