เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม นายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ (อขว.) จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ที่มีความจุอ่าง 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับ 155 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) โดยข้อมูล วันที่ 17 สิงหาคม 2561 เวลา 07.00 น. มีปริมาณน้ำในเขื่อน 7,838 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 88% ขณะที่เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ 100.02 ล้านลูกบาศก์เมตร และได้ระบายออก 41.40 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมีมติให้เร่งพร่องน้ำออกไป เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝน ในช่วงเดือนสิงหาคม และกันยายนนี้ จึงมีมติปรับแผนการระบายน้ำ วันที่ 17 สิงหาคม-30 กันยายน 2561 ระบายน้ำเฉลี่ย 43 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันซึ่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,022 ล้านลูกบาศก์เมตรและได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยมีการบริหารจัดการน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้ หากสถานการณ์น้ำมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการปรับแผนระบายน้ำเขื่อนวชิราลงกรณจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอีกครั้ง
สำหรับด้านความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนวชิราลงกรณมีการออกแบบและก่อสร้างตามมาตรฐานสากลโดยมีหน่วยงานด้านบำรุงรักษาเขื่อน ทำการตรวจสอบเขื่อน เป็นประจำทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทุกปี และโดยคณะกรรมการตรวจประเมินความปลอดภัยเขื่อนทุกๆ 2 ปี หรือ เมื่อมีเหตุการณ์ที่จะส่งผลกระทบกับตัวเขื่อน เช่น ฝนตกหนัก ระดับน้ำในเขื่อนมากกว่า 80% หรือ มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเขื่อนด้วยเครื่องมือวัดที่ติดตั้งไว้ภายในตัวเขื่อนและบริเวณใกล้เคียงทันที เพื่อรายงานและวิเคราะห์ผลทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น จึงขอให้ประชาชน มีความมั่นใจ ในความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน
ด้านนายประเสริฐ อินทับ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ (อขศ.) จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบัน อยู่ที่ระดับ 174.66 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางเป็นปริมาณน้ำ 15,592.46 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 87.87% โดยวันนี้มีแผนการระบายน้ำ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร
และในด้านสถานการณ์น้ำในปัจจุบันที่ประเทศไทยยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงในจังหวัดกาญจนบุรี โดยเมื่อวาน (วันที่ 16 สิงหาคม) มีน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ 45.22 ล้านลูกบาศก์เมตร และได้ระบายน้ำออกตามแผนการระบายน้ำ 24.96 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งตอนนี้ยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีก 2,156.40 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงทำให้มั่นใจได้ว่าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ยังคงสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีก โดยไม่เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงและปลอดภัยของตัวเขื่อน รวมไปถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชนด้านท้ายน้ำ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์น้ำในช่วงนี้ที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงได้เพิ่มการตรวจสอบเขื่อนให้มีความถี่มากขึ้นกว่าเดิม เช่น การตรวจอัตราการซึมของน้ำผ่านตัวเขื่อน การตรวจวัดระดับน้ำในหลุมวัดน้ำ เดิมตรวจสอบสัปดาห์ละครั้ง เป็นตรวจสอบทุกวัน ส่วนการตรวจสอบ การทรุดตัวและเคลื่อนตัวของเขื่อน จากเดิมไตรมาสละครั้ง เป็นเดือนละครั้ง โดยได้ทำการตรวจวัดด้วยสายตลอดแนวสันเขื่อนทั้งด้านเหนือน้ำ ท้ายน้ำ และตรวจสอบด้วยเครื่องมือวัด ในอุโมงค์ตรวจสอบใต้ฐานเขื่อน ตัวสันเขื่อนและจุดวัดระดับน้ำใต้ดินด้านท้ายเขื่อน จากการตรวจสอบพบว่าตัวชี้วัดทุกตัวยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีแนวโน้มหรือบ่งชี้ว่ามีสิ่งผิดปกติแต่ประการใด เขื่อนยังมีความแข็งแรง มั่นคง ปลอดภัย จึงขอให้ประชาชน มีความมั่นใจ ในความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนศรีนครินทร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดกาญจนบุรียังคงประกาศแจ้งเตือนประชาชนและผู้ประกอบการที่อยู่ริมน้ำตลอดสองฝากฝั่งของลำน้ำให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ เนื่องจากทั้ง 2 เขื่อนยังคงต้องเร่งพร่องน้ำในไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับฝนรอบใหม่ โดยเฉพาะเขื่อนวชิราลงกรณ ที่เร่งระบายน้ำอยู่ที่ 43 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดของการระบายน้ำของเขื่อนฯ ขณะที่พื้นที่ จ.กาญจนบุรี วันนี้ปรากฏว่า มีฝนตกลงมาเป็นตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะพื้นที่ตอนบน ได้แก่ อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี จะมีฝนตกชุกหนาแน่น ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณจำนวนมาก ส่วนสถานการณ์น้ำตลอดแนวลำน้ำแม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ และแม่น้ำแม่กลอง ระดับน้ำยังคงทรงตัว โดยพื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวตลิ่งก็ยังคงมีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมอยู่