“อุตตม”ย้ำแผนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมใหม่ ตัองพัฒนาไบโออีโคโนมี-ส่งเสริมโรบอท

นายอุตตม สาวนาวยน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการประจำปีของสมาคมนักศึกษาสถาบันวิทยาการตลาดทุนว่า วาระหลักการดำเนินงานของรัฐบาลคือการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจ โดยผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตและกระจายอย่างทั่วถึง ซึ่งการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม รัฐบาลและเอกชนดำเนินงานตามแผนอุตสาหกรรม 4.0 กำหนดเป้าหมายทั้งในอุตสาหกรรมเดิมที่มีจุดแข็งอยู่แล้ว และพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชีวภาพ (ไบโออีโคโนมี) ในภาคตะวันออกเฉลียงเหนือ (อีสาน) ภาคเหนือตอนล่าง โดยให้เอกชนเข้าไปลงทุนและเป็นแกนนำการพัฒนาโดยนำนวัตกรรมมาปรับใช้ นอกจากนี้ส่งเสริมอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ทดแทนการนำเข้าหุ่นยนต์ปีละ 1 แสนล้านบาท รวมถึงการพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และการเร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เตรียมความพร้อมด้านระบบคมนาคม โลจิสติกส์และด้านอื่นๆ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบกฎหมายพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทยปีพ.ศ.2561-2570 แล้ว เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้เป็นไบโอฮับของอาเซียน

“อุตสาหกรรมใหม่ที่อยากเน้นคือไบโออีโคโนมี โดยใช้สินค้าเกษตรซึ่งเป็นสินค้าต้นทาง สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ทั้งอาหาร และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมองว่าหากมีการส่งเสริมเป็นระบบ จะทำให้ไทยมีโอกาสเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านนี้ รวมถึงการให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ คนไทยเริ่มผลิตหุ่นยนต์ได้ ใช้ทดแทนการนำเข้าได้ ทั้งนี้จะต้องต้องพัฒนาผลิตภาพของระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติและตำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของสังคมไทย” นายอุตตมกล่าว

นายอุตตมกล่าวว่า นอกจากนี้สิ่งที่จะต้องขับเคลื่อน ภายหลังที่รัฐบาลเข้ามาดำเนินงานแล้วทำให้ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติ คือจะต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเศรษฐกิจก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องทำให้มีการกระจายตัวอย่างทั่วถึง นำความได้เปรียบเรื่องจุดยุทธศาสตร์มาสร้างโอกาสให้กับเอกชน พัฒนาเทคโนโลยีเชื่อมโยงกับการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของสตาร์ตอัพ และเตรียมความพร้อมด้านการรับผิดชอบต่อสังคมก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 และการยกระดับบุคลากรสายอาชีพ (สายอาชีวะ) ให้ตอบสนองตลาดได้ โดยตั้งเป้าอุตสาหกรรมเป้าหมาย ต้องมีบุคลากรอย่างน้อย 1 แสนคน โดยได้จัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาวิจัยและนวัตกรรมขึ้น เพื่อดูแลการขับเคลื่อนวาระการวิจัยและสนับสนุนการวิจัยของภาคอุตสหกรรมโดยตรง ซึ่งคาดว่ากระทรวงการอุดมศึกษาฯ จะเริ่มทำงานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ บริษัท ต้ำตาลมิตรผล จำกัด และประธานอาวุโส สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นอกจากการพัฒนาผลิตใหม่ๆ เช่น สารให้ความหวานแทนน้ำตาลแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลด้วย โดยปัจจุบันพัฒนาด้านไบโออีโคโนมี เช่น น้ำตาลที่มีแคลอรี่ต่ำ อาหารเสริมวิตามิน ตามแนวทางของรัฐบาลที่วางเป้าหมายประเทศเป็นฮับสำคัญของอาเซียน ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ทำวิจัยร่วมกับไต้หวันและจีน และกำลังศึกษาเพิ่มเติมว่าจะต่อยอดอย่างไรได้บ้างในอนาคต

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image