‘ธนจิรา’เดินหน้าเจาะตลาดเวียดนาม เตรียมทุ่ม 10 ล้านบาทขยายสาขา

นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ธนจิรา มีแบรนด์ภายใต้การบริหารรวมทั้งสิ้น 4 แบรนด์ ได้แก่ “แพนดอร่า” (PANDORA) “มารีเมกโกะ” (MARIMEKKO) “แคทคิดสตัน” (CATH KIDSTON) “ทิลด้า”(TILDA) โดยทั้งหมดนี้ถือว่า “แพนดอร่า” เป็นเรือธงสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต สะท้อนจากสัดส่วนยอดขายที่สูงถึง 65% ล่าสุดฉลองครบรอบ 8 ปี ในการทำตลาดในประเทศไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธนจิรา ประสบกับปัญหาหลายอย่างที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ แต่ก็สามารถก้าวผ่านมาได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการเน้นที่เอกลักษณ์ ให้ในแต่ละคอลเล็กชั่นมีความแตกต่าง โมเดิร์น ผ่านการออกแบบที่ถูกพัฒนาให้ดู พรีเมียม แพง แต่ยังคงเป็นเกรดเดิม ราคาสามารถจับต้องได้ และที่สำคัญ 85% เป็นลูกค้าไทย

ทั้งนี้ การขยายตลาดสู่ภูมิภาค ก็มีการวางแผนพร้อมรุกตลาดภูมิภาค โดยให้ แบรนด์ “แคท คิดสตัน” (CATH KI DSTON) นำไปเปิดตลาดก่อน แต่ในไตรมาสที่หนึ่งของปีหน้า จะเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยการรุกตลาดจะไปที่เวียดนามด้วย โดยจะลงทุนปี 2562 เป็นปีแรก ตั้งเป้าหมายเอาไว้ 2 สาขา ด้วยงบประมาณ 10 ล้านบาท และราคาขายที่เวียดนามจะถูกว่าที่ไทย ราคาตั้งต้นต่ำกว่า 10% เพราะกำลังซื้อที่แตกต่างกันกับประเทศไทย

นายธนพงษ์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดไลฟ์สไตล์แฟชั่นที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ในไตรมาสที่ 1 และ 2 จะเติบโตได้ดีกว่า ไตรมาสที่ 3 จากเดิม “แพนดอร่า” โตอยู่ที่ 35% เหลือเพียง 25% ส่วนในไตรมาสสุดท้ายนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจน่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม คือ มีแนวโน้มไปในทางที่ดีมากขึ้น เนื่องด้วยจุดแข็งของประเทศ ก็จะเป็นตัวช่วยให้เศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นกลับมา โดยในปี 2019 ธนจิราจะเปิดตัว แบรนด์ใหม่ ที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม ซึ่งเป็นแบรนด์ของไทยในท้องตลาดผู้คนรู้จัก ซึ่งทางธนจิราได้ซื้อกิจการมาเป็นของเราเอง มีมูลค่าถึง 1,000 ล้านบาท เป็นงบหมุนเวียนในบริษัท 15% และเป็นเงินกู้ที่นำมาลงทุนถึง 85% ทั้งนี้พร้อมขยายฐานลูกค้าในประเทศ โดยมีแผน 6-9 เดือนนี้ จะเดินหน้าปรับปรุงโครงสร้างขยายการขายไปสู่ต่างประเทศ และครึ่งปีเตรียมการไปคุยกับพันธมิตร

อย่างไรก็ตาม ด้วยการขับเคลื่อนแบรนด์ตามกลยุทธ์ ส่งผลให้ในปีนี้แพนดอร่าเจาะฐานกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นทั้งกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติ ธนจิราจะยังคงเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและตลาดไลฟ์สไตล์จิวเวลรี่ที่ยังคงเติบโตได้ดี มั่นใจสินปีนี้แพนดอร่าจะเติบโต 28% และจะสามารถผลักดันให้ผลประกอบการรวมของบริษัท เติบโต 27% พร้อมตั้งเป้าหมายภายในปี 2563 แพนดอร่าจะมียอดขาย 1,200 ล้านบาท และสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตามแผนโรดแมปอีกด้วย

Advertisement

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image