“สนธิรัตน์”สั่งทูตพาณิชย์ยุโรปหาตลาดไบโอดีเซล ดูดซับน้ำมันปาล์มล้น3แสนตัน

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าแก้ปัญหาปาล์มล้นและราคาตกต่ำว่า คณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ที่มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ที่กระทรวงพาณิชย์ จะมีการประชุมในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ จากเดิมกำหนดประชุมวันที่ 25 ตุลาคม เพื่อปรับเพิ่มและเร่งรัดในทางปฎิบัติตามมติคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ล่าช้าในขั้นตอน

โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์ คือ 1.การมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ โดยผลักดันส่งออกน้ำมันปาล์มดิบเป้าหมาย 3 แสนตันภายใน 3-4 เดือน ซึ่งกรมฯได้เสนอขอใช้งบกลางสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 525 ล้านบาท ในการชดเชยค่าขนย้ายและค่าใช้จ่ายให้โรงงานที่รับซื้อปาล์มจากเกษตกร กิโลกรัมละ 1.75 บาท และสิ้นสุดเดือนธันวาคมนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนอนุมัติงบกลาง ทำให้กรมฯต้องเสนอขยายเวลาสิ้นสุดโครงการออกไปเป็นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และทบทวนอ้างอิงในการรับซื้อใหม่ ให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ) ที่มีการลดลงต่อเนื่องตามราคาโลก จากขณะนั้นราคาซีพีโอเกิน 20 บาท/กก. ลดเหลือ 17-18 บาท/กก.

นายวิชัย กล่าวว่า ส่วนอีก 2 มาตรการ คือ 2. การแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มที่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง โดยเร่งการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 ในรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ และรถยนต์ทั่วไป ซึ่งเรื่องนี้ได้หารือกับผู้ผลิตรถยนต์ 2-3 ยี่ห้อยืนยันว่าพร้อมผลิต แต่รอประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่องกำหนดมาตรฐานรถยนต์และมาตรการจูงใจ ให้มีการพัฒนารถยนต์บรรทุกขนาดเล็กให้สามารถใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 ได้ หากส่วนนี้ดำเนินการได้จะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มส่วนเกินได้เดือนละ 1.2-1.5 แสนตันต่อเดือน

นายวิชัย กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการ 3. ในส่วนการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในระดับพื้นที่ ได้ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการ เพื่อกำกับและแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในพื้นที่ และจัดทำข้อตกลงเอ็มโอยูซื้อขายผลปาล์มคุณภาพระหว่างเกษตรกรกับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม อาศัยคำสั่งการนายกรัฐมนตรีที่ให้กระทรวงมหาดไทย รวมถึงกระทรวงอุตสาหกรรมออกประกาศ เรื่อง กำหนดวัตถุดิบและคุณภาพผลิตภัณฑ์ของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม แยกเป็น โรง A ต้องสกัดน้ำมันได้ไม่น้อยกว่า 18% และ โรง B ต้องสกัดน้ำมันได้ไม่น้อยกว่า 30% เพื่อผลักดันให้มีการบังคับใช้โดยเร็ว ซึ่งแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ เพื่อเห็นชอบและสั่งการให้หน่วยงานเร่งดำเนินการตามแผน

Advertisement

” เรื่องแผนส่งออก ได้หารือกับทูตพาณิชย์ในประเทศแภบยุโรปแล้ว เช่น สเปน ซึ่งประเทศในยุโรปกำลังการใช้ไบโอดีเซลเป็นพลังงานทดแทนมากขึ้น โดยทูตพาณิชย์แต่ละประเทศก็จะเข้าหารือเรื่องปริมาณนำเข้าและการส่งมอบ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้รับมอบหมายผลักดันส่งออก ก็มีเป้าหมายส่งออกไม่ต่ำกว่า 6-7 หมื่นตันต่อเดือน หากได้คำสั่งซื้อจากหลายประเทศพร้อมกัน ก็จะทำให้ส่งออกเพิ่มเป็นแสนตันต่อเดือน เมื่อไปรวมกับมาตรการดูดซับภายในประเทศที่กระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรมได้รับมอบหมาย ก็จะทำให้สต็อกน้ำมันปาล์มที่มีอยู่ 3.8 แสนตัน และที่กำลังออกสู่ตลาดใหม่อีก 3-4 แสนตัน ลดลงสู่ภาวะสต็อกปาล์มปกติไม่เกิน 2 แสนตัน ก็จะทำให้ราคาผลปาล์มดิบตามเป้าหมายไม่ควรต่ำกว่า 3.50 บาท/กก. ” นายวิชัย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image