วันที่ 31 ตุลาคม ของแต่ทุกปีกำหนดให้เป็นวันออมแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีนิสัยรักการออมตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการออมเงิน
ด้วยการเริ่มจากการออมสามารถต่อยอดให้เกิดการวางแผนการเงินที่ดีตามมาได้ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า คนไทยส่วนใหญ่มีวิธีการเก็บเงินออมโดยเก็บเป็นเงินสด และเก็บเงินในบัญชีเงินฝาก ดังนั้น ช่องทางที่ประชาชนจะสามารถฝากเงินเพื่อการออมได้นั้น จะผ่านช่องทางสาขาของธนาคารต่างๆ หรือตู้รับฝากเงินอิเล็กทรอนิกส์
อย่างไรก็ตาม การทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลที่ขยายตัวสูงทำให้การทำธุรกรรมส่วนใหญ่สามารถทำผ่านช่องทางโมบายแบงกิ้ง อินเตอร์เน็ตแบงกิ้งได้หมด เข้ามาทดแทนการทำธุรกรรมเหล่านี้ที่สาขาธนาคาร ประชาชนมาใช้บริการที่สาขาลดลง ทำให้มีการปิดสาขาเพื่อลดต้นทุนและปรับเปลี่ยนสาขาธนาคารให้บริการในรูปแบบอื่นๆ มากขึ้น
แม้ว่าธนาคารจะมีการปิดสาขา แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ ได้เพิ่มความยืดหยุ่นโดยได้ปรับกฎเกณฑ์ใหม่เมื่อต้นปีนี้ ให้ธนาคารสามารถแต่งตั้งตัวแทนทำธุรกรรมการเงิน หรือแบงกิ้ง เอเยนต์ (Baking Agent) ได้ทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา เป็นการเปิดโอกาสให้ธนาคารเลือกตัวแทนได้มากขึ้นเพื่อทำธุรกรรมแทน อาทิ รับฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน รับชำระเงินหรือจ่ายบิล ซึ่งจากเดิมที่ธนาคารหนึ่งๆ อาจจะมีสาขา 1 สาขาในแต่ละพื้นที่ แต่เมื่อเลือกใช้แบงกิ้ง เอเยนต์ที่สามารถเลือกตัวแทนได้มากกว่า 1 แห่ง มีโอกาสที่ลูกค้าจะสามารถใช้บริการที่ใดก็ได้ได้ง่ายมากขึ้นเช่นกัน
ธนาคารออมสิน ถือเป็นแบงก์รัฐแห่งแรกที่ลงสนามแบงกิ้งเอเยนต์ โดยร่วมมือกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด เพื่อให้บริการฝาก-ถอนเงิน ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นกว่า 13,000 สาขาทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง
ถือฤกษ์วันออมแห่งชาติ วันที่ 31 ตุลาคม 2561 เปิดให้บริการ โดยช่วงแรก 1 ปีนับจากนี้เปิดให้ฟรีสำหรับการฝากเงินของเด็กและเยาวชนอายุ 7-20 ปี ผ่านโครงการส่งเสริมการออมสำหรับเยาวชน เด็กดี ออมฟรี 24 ชั่วโมง มีข้อกำหนดคือเยาวชนอายุระหว่าง 7-20 ปี ออมเงินได้ตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากเงิน ส่วนผู้อายุ 20 ปีขึ้นไป เสียค่าบริการ 15 บาทต่อครั้ง
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า การให้บริการที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ต้องดำเนินการผ่านแอพพลิเคชั่น Mobile Banking (MyMo) ของธนาคารออมสิน ณ จุดให้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส โดยมียอดฝากสูงสุด 30,000 บาทต่อรายการ สามารถฝากเงินสดได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการให้บริการถอนเงินสดผ่าน MyMo My Card ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สามารถถอนได้ตั้งแต่ 1-5,000 บาท ในช่วงเวลา 08.00-22.00 น. โดยคิดค่าธรรมเนียม 15 บาทต่อรายการ คาดว่าภายในปีนี้ธนาคารออมสินเปิดให้บริการแบงกิ้งเอเยนต์ กับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อให้บริการฝ่ายสาขาไปรษณีย์ทั่วประเทศ และในช่วงปีหน้าจะดำเนินการร่วมกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อให้บริการธนาคารออมสินที่ปั๊มน้ำมันของ ปตท. ทั่วประเทศ
แบงกิ้งเอเยนต์จะมาช่วยตอบโจทย์การเข้าถึงบริการทางการเงินของประชาชน ซึ่งธนาคารออมสินไม่มีแนวคิดปิดสาขา รวมถึงไม่มีนโยบายเปิดสาขาเพิ่ม ดังนั้น การร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่ดำเนินการแบงกิ้งเอเยนต์ ทำให้ลูกค้าของธนาคารได้รับความอำนวยความสะดวกมากขึ้นสามารถใช้บริการที่สาขา เซเว่นฯกว่า 1 หมื่นแห่งตลอด 24 ชั่วโมง
“ความร่วมมือดังกล่าวช่วยทำให้ธนาคารออมสินสามารถเพิ่มสัดส่วนลูกค้าเป็น 30 ล้านคนในอีก 2 ปีข้างหน้า จากขณะนี้ธนาคารออมสินมีลูกค้า 20 ล้านคน รวมถึงเพิ่มสัดส่วนลูกค้าอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป จากเดิมมีสัดส่วน 37% ของตลาด เป็น 50% ของตลาด ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้ลูกค้าอายุ 7-20 ปีของธนาคารมีอยู่ประมาณ 6-7 ล้านคน” นายชาติชายกล่าว
ส่วนธนาคารกสิกรไทย ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้เริ่มเปิดรับฝากเงินผ่านไปรษณีย์ไทย ฝากได้ไม่มีขั้นต่ำ และสูงสุดที่ 20,000 บาท และต่อวันไม่เกิน 40,000 บาท พบว่า 1 เดือนมีผู้ใช้บริการโดยเฉพาะแม่ค้าออนไลน์ฝากเงินมากกว่า 1,000 รายการต่อวัน จากเดิมคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการในหลักร้อยรายการต่อวัน เฉลี่ย 2,000-3,000 บาทต่อรายการ แม้ว่าจะมีการเก็บค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อครั้ง ปัจจุบันโปรโมชั่นค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 10 บาท แต่ด้วยความสะดวกลูกค้าจึงเลือกใช้บริการ ซึ่งธนาคารกสิกรไทยยังจะขยายบริการอื่นเพิ่มเติม เช่น ถอนเงินและเปิดบัญชีเงินฝากได้ที่สาขาไปรษณีย์ เป็นต้น และล่าสุดได้แต่งตั้งเซ็นเพย์ ให้บริการที่ร้านแฟมิลี่มาร์ท ในเครือเซ็นทรัลเป็น แบงกิ้งเอเยนต์ เป็นการขยายช่องทางใหม่ให้กับลูกค้า จะให้บริการรับฝากบัญชีของธนาคารกสิกรไทยแบบ 24 ชั่วโมง เบื้องต้น จะรับฝากเงินสูงสุด 2,500 บาทต่อครั้ง ไม่เกิน 5,000 บาทต่อวัน คิดค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อรายการ
ขณะที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้เริ่มให้บริการฝากเงินและโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยาผ่านตู้บุญเติมกว่า 130,000 ตู้ทั่วประเทศ ยกเว้นตู้หน้า เซเว่นอีเลฟเว่น โดยเงินเข้าบัญชีทันที สามารถทำรายการได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง รองรับเหรียญและธนบัตรทุกรุ่น โดยทำรายการได้ตั้งแต่ 1 บาท จนถึง 5,000 บาทต่อรายการ และไม่เกิน 40,000 บาทต่อวันต่อผู้โอน
นอกจากนี้ ธนาคารอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ อยู่ระหว่างการดำเนินการเช่นกันคาดว่าจะมีการประกาศแบงกิ้งเอเยนต์ออกมาเร็วๆ นี้ ต่อไปจะฝากเงินก็แสนง่าย 1 บาทก็ฝากได้เช่นกัน เป็นการช่วยส่งเสริมการออมให้กับทุกผู้ทุกวัย
ที่สำคัญก่อนที่จะฝากเงินที่ธนาคารได้จะต้องมีบัญชีเงินฝาก และเพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบัญชีเงินฝากได้ ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคาร 16 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพ, กรุงไทย, กรุงศรีอยุธยา, กสิกรไทย, เกียรตินาคิน, ซีไอเอ็มบี ไทย, ทหารไทย, ทิสโก้, ไทยเครดิตเพื่อรายย่อย, ไทยพาณิชย์, ธนชาต, ยูโอบี, แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, ไอซีบีซี (ไทย), ออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นต้น ขณะนี้ได้มีการจัดทำโครงการ บัญชีเงินฝาก พื้นฐาน ที่สามารถเดินไปที่ธนาคารและขอเปิดบัญชีได้โดยไม่ต้องมีเงินสักบาท หรือ 0 บาท ก็เปิดบัญชีได้ เป็นการลดต้นทุนการเข้าถึงบริการการเงิน แต่เบื้องต้นให้บริการกับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ขึ้นไปก่อน และเปิดบัญชีเงินฝากพื้นฐานได้ 1 บัญชีต่อ 1 ธนาคาร
การเข้าถึงบริการเงินฝากได้ง่ายขึ้นทุกที่ คาดว่าจะช่วยส่งเสริมการออมเพื่ออนาคตการเงินที่ดีได้ และภาพที่เปลี่ยนแปลงไปของธนาคารในปัจจุบัน มีแบงกิ้งเอเยนต์เพิ่มมากขึ้นสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดของธนาคารในการแย่งชิงลูกค้า
