นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม จำนวน 1,210 ราย ระหว่างวันที่ 1-6 พฤษภาคม 2559 พบว่า 42% ระบุมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อีก 39.6% ระบุต้องใช้จ่ายลดลง และ 18.4% ระบุใช้จ่ายเท่าเดิม โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยโดยรวม 10,064 บาท สาเหตุใช้จ่ายเพิ่ม เพราะค่าเล่าเรียน/หน่วยกิตสูงขึ้น สินค้าแพงขึ้น และซื้อจำนวนมากขึ้น ส่วนที่ใช้จ่ายน้อยลง สาเหตุจากรายได้ที่น้อยลง ดำเนินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง สินค้าแพงขึ้น และไม่มั่นใจเศรษฐกิจไทย คาดเปิดเทอมปีนี้จะมีเงินสะพัด 49,145 ล้านบาท เป็นมูลค่าสูงสุดจากทำสำรวจมา 7 ปี แต่อัตราขยายตัวเพียง 2.3% จากปี 2558 ซึ่งมีผลดีต่อจีดีพี 0.1-0.2% ทั้งนี้ ประชาชนยังอยากให้รัฐปรับปรุงระบบการศึกษาและส่งเสริมให้ทุนการศึกษา ผ่านโครงการให้เงินกู้ยืมระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา (กยศ.)
นายธนวรรธน์กล่าวว่า แม้อัตราขยายตัวปีนี้จะสูงสุดรอบ 3 ปีนับจากปี 2557 แต่ยังเป็นอัตราขยายตัวที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ควรขยายตัว 5-10% สะท้อนว่าประชาชนยังระมัดระวังการใช้จ่าย และเศรษฐกิจยังฟื้นตัวแบบอ่อนๆ ผลกระทบจากรายได้ต่ำ รายจ่ายสูง สินค้าเกษตรราคาไม่ดี และหนี้ครัวเรือนยังสูง สูงกว่าปีก่อน 24.11% ในกลุ่มสำรวจกว่า 70% ระบุมีหนี้ครัวเรือน และ 51.3% ระบุมีเงินไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ทำให้ต้องกู้ยืมหนี้นอกระบบและหันมาผ่อนชำระค่าเทอมและสินค้าเกี่ยวกับการเรียน
