นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธนาคารได้อนุมัติเงินร่วมลงทุนจาก กองทุนร่วมลงทุนในธุรกิจเอสเอ็มอีที่เป็นกลุ่มเป้าหมายซึ่งมีมูลค่ากองทุน 2,000 ล้านบาท ให้กับธุรกิจแล้ว 4 ราย รายละประมาณ 10 ล้านบาท และมีธุรกิจที่อยู่ในระหว่างพิจารณาให้เงินร่วมทุนอีก 20 ราย ทั้งหมดคิดเป็นเงินร่วมลงทุนกว่า 370 ล้านบาท ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวนอกจากจะสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพแล้วยังสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีอยู่ให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพแต่ปรากฎว่ายังไม่มีผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ทอัพมากพอ ดังนั้นธนาคารได้ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม The Angel Biz Challenge เพื่อให้ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์และผู้ที่ต้องการเป็นสตาร์ทอัพมาแข่งขันพร้อมรับการอบรมความเข้าใจเรื่องการประกอบธุรกิจ ชิงเงินรางวัลกว่า 1.2 ล้านบาท คาดว่าโครงการนี้จะช่วยพัฒนาสตาร์ทอัพให้เข้มแข็งมากขึ้น
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนให้เกิดธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้สังคมเกิดความตระหนักกับเรื่องดังกล่าวได้ดี แต่สิ่งที่ต้องพัฒนาต่อคือการศึกษาความเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ พัฒนาธุรกิจให้ตรงกับความต้องการของตลาดผลิตสินค้าหรือบริการแก้ปัญหาให้ผู้บริโภคได้ เป็นต้น โดยปัจจุบันในประเทศไทยมีผู้ประกอบการสตาร์ทอัพประสบความสำเร็จแล้วประมาณ 50-60 รายและคาดว่ามูลค่าทางธุรกิจของบริษัทเหล่านี้จะเติบโตเป็น 3 เท่าภายใน 7 ปี
