นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ ไตรมาสแรก ปี 2559 ว่า คุณภาพสินเชื่อไตรมาสนี้ด้อยลงทุกประเภท ทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2.64% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน หรือมูลค่า 3.57 แสนล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2558 ที่อยู่ที่ 2.55% มูลค่า 3.37 แสนล้านบาท เป็นการเพิ่มขึ้นจากสินเชื่อธุรกิจ โดยสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3.69% จาก 3.50% รวมทั้งสินเชื่อพิเศษจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (เอสเอ็ม) ของเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นจาก 2.19% เป็น 2.24% ขณะที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นเป็น 1.73% จาก 1.61%
นายดอนกล่าวว่า ส่วนเอ็นพีแอลสินเชื่ออุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นเป็น 2.58% จากสิ้นปี 2558 ที่อยู่ 2.56% จากสินเชื่อบัตรเครดิตเป็นหลักที่เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.66% จาก 3.99% และเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก ปี 2555 ที่อยู่ที่ 2.23% ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มที่มีรายได้มากกว่า 5 หมื่นบาท/เดือน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีการใช้วงเงินบัตรเครดิตเป็นสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ และเอ็นพีแอลสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเป็น 2.55% จาก 2.44% ส่วนสินเชื่อรถยนต์ที่เอ็นพีแอลลดลงอยู่ที่ 2.06% จาก 2.32% เพราะผลจากการทิ้งรถยนต์จากมาตรการรถยนต์คันแรกหมดลงและยอดขายรถยนต์ใหม่ยังชะลอตัว เช่นเดียวกับสินเชื่อบุคคลเอ็นพีแอลลดลงอยู่ที่ 2.72% จาก 2.73%
“เอ็นพีแอลยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่องตามทิศทางของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า และคาดว่าจะแตะระดับสูงสุดในปีนี้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นช่วงใด แต่หากเศรษฐกิจทรุดไปมากกว่านี้ก็มีโอกาสที่เอ็นพีแอลจะเพิ่มสูงขึ้นได้อีก โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีซึ่งยังต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด” นายดอนกล่าว
