นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยว่า หลังจากบีโอไอออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในกิจการเกษตรแปรรูป ศูนย์จำหน่ายสินค้า และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น ปรากฏว่ามีกลุ่มธุรกิจไทยหลายรายแสดงความสนใจมาหารือกับบีโอไอถึงแนวทางและรูปแบบการเข้าไปลงทุนในท้องถิ่น จึงมั่นใจว่าจะมีบริษัทรายใหญ่อย่างน้อย 4-5 ราย ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเร็วๆ นี้ ซึ่งต้องเปิดดำเนินการภายในปี 2560 ตามเงื่อนไข เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับชุมชน
“บีโอไอเตรียมจัดสัมมนาใหญ่เรื่อง ท้องถิ่นก้าวไกล เศรษฐกิจไทยก้าวหน้า ที่อิมแพค เมืองทองธานี เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการทั้งระดับท้องถิ่นและเอสเอ็มอี ไปจนถึงกิจการขนาดใหญ่ เพราะมาตรการส่งเสริมการลงทุนท้องถิ่นไม่ได้ให้ส่งเสริมเฉพาะรายย่อย แต่ยังเปิดโอกาสให้บริษัทขนาดใหญ่ยื่นขอรับส่งเสริมเพื่อเข้าไปลงทุนในท้องถิ่นด้วย เพราะภาครัฐต้องการสนับสนุนกิจการขนาดใหญ่เข้าไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชน”
นางหิรัญญากล่าวว่า มาตรการส่งเสริมการลงทุนท้องถิ่นมุ่งเน้นให้เกิดการลงทุนที่สร้างมูลค่าเพิ่มแก่การเกษตร ได้แก่ การนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาทำปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ หรือนำผลไม้ในท้องถิ่นมาแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ เช่น น้ำมังคุด น้ำสำรอง น้ำสละ หรือแปรรูปเป็นผลไม้อบแห้ง ผลไม้อบแสงอาทิตย์ หรือทำขนมปังกรอบไส้สับปะรด หรือไส้ผลไม้ของแต่ละท้องถิ่น ขณะเดียวกันจะให้การส่งเสริมแก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่เข้าไปสนับสนุนหรือร่วมดำเนินการกับองค์กรท้องถิ่นเพื่อลงทุนในกิจการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรหรือพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน อาทิ ผู้ประกอบขนาดใหญ่ลงทุนตั้งโรงงานหรือแหล่งท่องเที่ยว โดยร่วมมือกับท้องถิ่น อาทิ ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ชุมชน หรือให้ชุมชนร่วมถือหุ้น ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปีสำหรับโครงการเดิมของผู้ประกอบการขนาดใหญ่ แต่หากเป็นกิจการรายย่อยจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี
