นายภวรัญชน์ อุดมศิริ กรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝด บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ หรือ GOLD เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้ความเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ……. ที่เป็นการปรับปรุงกฎหมายการจัดเก็บภาษีเดิม คือ ภาษีโรงเรือนและภาษีบำรุงท้องที่ ให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรมยิ่งขึ้น และเป็นการสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นในการนำมาพัฒนาตัวเองยิ่งขึ้นนั้น หากพ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว จะมีการประกาศรายละเอียดอัตราการจัดเก็บจริงต่อไปนั้น เห็นว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งในระยะแรกลูกค้าอาจจะสับสน หากศึกษาให้ดีจะพบว่าเมื่อซื้อบ้านหลังแรก ราคาต่ำกว่า 50 ล้านบาทจะไม่ต้องเสียภาษี แต่เมื่อซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 จึงจะต้องเสียภาษี ยิ่งซื้อบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ก็จะเสียภาษีต่อปีประมาณ 1,200-1,500 กว่าบาท ถือว่าไม่มากนักเมื่อเทียบกับต้องจ่ายค่าส่วนกลาง โดยที่ผ่านมาพบว่าคนไทยมีความต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2 เป็นจำนวนมาก เนื่องจากต้องการเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง ซึ่งเชื่อไม่กระทบต่อยอดขายของผู้ประกอบการ และบริษัทก็จะต้องใช้ระยะเวลาในการทำความเข้าใจกับลูกค้าระยะหนึ่ง ส่วนข้อดีของพ.ร.บ.ดังกล่าวคือ จะทำให้ผู้ประกอบการหาซื้อที่ดินได้ง่าย เพราะเจ้าของที่ดินจะยอมแบ่งขายที่ดินได้ง่ายขึ้น แต่ราคาที่ดินจะไม่ปรับลดลงแต่อย่างใด มีแต่จะเพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่อง เพราะนับวันที่ดินในเมืองจะหาได้ยากมากขึ้น
นายภวรัญชน์ กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินการของบริษัทฯในปีนี้จะรุกเปิดตลาดทาวน์โฮมระดับล่างต่ำกว่า 2 ล้านบาทโดยมีบ้านรุ่นใหม่ ทาวน์โฮมรุ่นแอมเบอร์ ราคาเริ่มต้นที่ 1.4 ล้านบาท ครบฟังก์ชั่นการใช้งาน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 96 ตารางเมตร ได้คุ้มถึง 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ความพิเศษอยู่ที่ ห้องนอนขนาดใหญ่ถึง 2 ห้อง และการออกแบบจัดวางทำให้ได้พื้นที่ห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งสามารถปรับเป็นห้องอเนกประสงค์ เป็นโรงหนังส่วนตัว หรือห้องทำงานได้ แถมด้วยพื้นที่หน้าบ้านที่มีพอสำหรับจัดสวนสวยๆ และยังคงมีนวัตกรรมครัวไทยพร้อมพื้นที่ซักรีด หรือ GOLDEN KITCHEN ที่เป็นเอกลักษณ์ฟังก์ชั่นพิเศษของบริษัทให้อีกด้วย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการเปิดขายที่ 2 โครงการใหม่ โกลเด้น ทาวน์ พระราม 2 และ ชัยพฤกษ์-วงแหวน
“การที่เรารุกตลาดทาวน์โฮม ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทนั้น ไม่ได้มีความกังวลเรื่องยอดการปฏิเสธสินเชื่อ (Reject) จากสถาบันการเงิน แต่อย่างใด โดยปัจุบันยอด Reject ของลูกค้าบริษัทฯอยู่ในสัดส่วน 35-40% แต่ลูกค้าก็ยังโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากบริษัทฯพยายามเร่งปิดยอดขายให้ได้มากที่สุด ส่วนบ้านประชารัฐคงไม่สนใจเข้าร่วมโครงการแต่อย่างใด” นายภวรัญชน์ กล่าว
