‘บิ๊กป้อม’ ห่วงภัยแล้งกระทบหนักสั่งช่วยเหลือด่วน! กอนช.รับลูก ยันปชช.มีน้ำใช้ เตรียมแผนรับมือ-จัดหาแหล่งน้ำสำรอง

เมื่อวันที่ 23 มกราคม นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานภายใต้(กอนช.)  ครั้งที่ 1/2563 ว่า การประชุมนัดแรกของกอนช. ได้หารือกระบวนการทำงาน โดยคณะทำงานประกอบด้วยแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการดำเนินร่วมกัน และขณะนี้หลายหน่วยงานได้เริ่มเข้ามาปฏิบัติงานที่ กอนช. แล้ว ซึ่งคณะทำงาน แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) คณะทำงานด้านอำนวยการ 2) คณะทำงานด้านประเมินสถานการณ์ 3) คณะทำงานด้านบริหารจัดการน้ำ 4) คณะทำงานด้านสร้างการรับรู้และการประชาสัมพันธ์ โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ทุกคณะทำงานปฏิบัติงานร่วมกันอย่างสอดคล้อง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของ กอนช.  ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถบรรเทาแก้ไขปัญหาภัยแล้งและให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยแล้งได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้เร่งดำเนินการคือเรื่องของน้ำอุปโภคบริโภคให้มีเพียงพอสำหรับประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 20 จังหวัด มี 5 จังหวัด ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ นครราชสีมา เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี อุทัยธานี ที่ประสบปัญหาด้านน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตร

“วันนี้ทุกหน่วยงานได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้ทุกจังหวัดมีแผนงานรองรับแล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ จึงได้มอบหมายให้ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่สำรวจความขาดแคลนในแต่ละตำบลที่ประสบปัญหา เพื่อการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ด้านปัญหาคุณภาพน้ำที่ค่าความเค็มที่จะรุกในแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้งในช่วงวันที่ 24-31 มกราคม 2563 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำดิบในการผลิตประปา วันนี้ กนอช. ก็ได้มอบหมายให้ การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค มีการเพิ่มพื้นที่เฝ้าระวังมากขึ้น อีกทั้งยังได้มอบหมายให้เร่งหาแผนการ/โครงงานรองรับ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมปัจจุบันยืนยันว่า ยังคงมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน รวมถึงขณะนี้หน่วยงานเกี่ยวข้อง กำลังอยู่ในช่วงเชื่อมโยงโครงการด้านอุปโภคบริโภคที่สามารถดำเนินการได้ทันที โดยเริ่มมีการสำรวจตรวจสอบในพื้นที่แล้ว รวมทั้งจะเริ่มพัฒนาและก่อสร้างต่อไปโดยเร็ว

Advertisement

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ในส่วนของสถานการณ์ฝน กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานว่าเป็นไปตามคาดการณ์ โดยปริมาณฝนจะยังมีน้อยอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2563 และจะเริ่มกลับมามีฝนอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายน 2563 ก่อนที่จะเกิดฝนทิ้งช่วงเมื่อเข้าสู่ต้นเดือนกรกฎาคม 2563 แต่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้งในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ จะมีการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อเนื่องหลังจากสิ้นสุดฤดูแล้งไปแล้วอีก 3 เดือน เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต ส่วนปัญหาเรื่องการเพาะปลูกเกินแผน ขณะนี้บริเวณทุ่งเจ้าพระยา มีการเพาะปลูกเกินแผนกว่า 1.87 ล้านไร่ และบางส่วนใช้น้ำจากระบบชลประทาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ต้องมีการกำหนดควบคุมอย่างเข้มงวดและจริงจัง เพื่อให้ไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำอุปโภคบริโภค โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีการกำหนดมาตรการออกมาใช้ภายในสัปดาห์หน้า

“ปัญหาเรื่องปริมาณน้ำในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ที่หลายภาคส่วนเป็นกังวลว่าจะมีน้ำรองรับไม่เพียงพอนั้น ได้วางมาตรการพร้อมหารือร่วมกับทางจังหวัดระยองและคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อดึงน้ำส่วนหนึ่งจากแหล่งน้ำที่มีอยู่เดิมซึ่งดำเนินการก่อสร้างโดยกรมชลประทาน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเจรจาร่วมกันระหว่างจังหวัด คณะกรรมการลุ่มน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีน้ำเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้” นายสมเกียรติ กล่าว

นอกจากนี้  นายสมเกียรติ กล่าวว่า เรื่องของปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำ ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ในกรุงเทพมหานครได้แล้ว ส่วนที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นอีกพื้นที่ที่ประสบปัญหา ได้มีการวางมาตรการเติมน้ำเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้กรมชลประทาน หาแนวทางผันน้ำจากแม่น้ำแม่กลองมาทางแม่น้ำเจ้าพระยาให้มากขึ้น นอกจากนี้ ในส่วนของคลองประปา ได้มอบหมาย การประปานครหลวง ให้เพิ่มปริมาณการผันน้ำ เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำจากตอนบน โดยในวันที่ 31 มกราคมนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีกำหนดลงพื้นที่ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำด้วย อย่างไรก็ตามในช่วงฤดูแล้งต่อจากนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าและมีประโยชน์สูงสุด เพื่อเราจะได้มีน้ำใช้ในทุกกิจกรรมตลอดแล้งนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image