“อนุทิน” ยันไทยชนะ “โควิด-19” ชี้เป็นเป้าหมายการลงทุนของต่างชาติ คาดไม่เกิน 1 ปี ปท.ฟื้น

“อนุทิน” ปาฐกถาพิเศษ “ลงทุน2020ฯ” ยันไทยชนะ “โควิด-19” ชี้เป็นเป้าหมายการลงทุนของต่างชาติ คาดไม่เกิน 1 ปี ปท.ฟื้น

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ รางน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานสัมมนา “ลงทุน2020 ฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างชาติ สร้างงาน” ร่วมฟื้นฟูประเทศไทยครบมิติสำคัญหลังวิกฤตโควิด-19 ในงานสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่ จัดโดย บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิดชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)

VIDEO CONTENT AVERTISEMENT

 

ADVERTISMENT

นายอนุทิน กล่าวว่า ในนามของรัฐบาลต้องขอขอบพระคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ ที่ได้เริ่มสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล มีการจัดสัมมนา ให้ประเทศไทยเดินหน้ากลับเข้าสู่ภาวะปกติให้มากที่สุด ตนในฐานะของ รมว.สธ. ขอให้ความมั่นใจว่าสาธารณสุขไทยจะรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค แต่คาดว่าอีกไม่นานเกินรอ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยจะเป็นผู้ค้นพบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ การจัดงานสัมมนาครั้งนี้เป็นการจัดภายใต้รูปแบบ New Normal เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีอย่างมากให้แก่หน่วยงาน และองค์กรอื่นๆ กลับมาดำเนินกิจการได้อย่างเป็นปกติ

ADVERTISMENT

“เราต้องไม่ต้องกลัวเชื้อโรคโควิด-19 มากเกินไป หากเรามัวแต่กลัว ไม่ทำอะไรเลย แต่ตั้งเป้าไว้ว่าประเทศนี้จะไม่มีการติดเชื้อเลยแม้แต่คนเดียว แต่เศรษฐกิจไปไม่ได้ คนตกงาน กิจการถูกกระทบอย่างมหาศาล เราอาจจะรอดจากโควิด-19 แต่อดตาย เราต้องเรียนรู้ในการป้องกันโรค เรามั่นใจว่าแม้จะมีผู้ติดเชื้อในประเทศแต่ระบบสาธารณสุขของประเทศสามารถรองรับได้ และพร้อมรับสถานการณ์จากปัจจุบันไปจนกว่าจะมีวัคซีน” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้มาเปิดงานที่มีชื่อว่า “ลงทุน2020 ฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างชาติ สร้างงาน” เราต้องเป็นผู้ชนะดังสุภาษิตต่างประเทศกล่าวว่า “ผู้ชนะมักจะเห็นทางออกหรือโอกาสในปัญหาทุกๆ ปัญหา แต่ผู้แพ้เท่านั้นที่จะเห็นปัญหาในทุกๆ โอกาส” ในวิกฤตโควิด-19 ไทยเราชนะมาโดยตลอด และประเทศไทยไม่ใช่ประเทศด้อยพัฒนาหรือไม่มีโอกาส แต่ในวิกฤตโควิด-19 ทำให้ประเทศอื่นมองหาประเทศพื้นที่ในการลงทุน และด้วยการควบคุมโรคที่ดีของไทย ทำให้เราไม่เจอผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศกว่า 2 เดือน ประเทศไทยจึงมีชื่อเสียงใหม่สำหรับนักลงทุน คือ ประเทศที่ปลอดภัย ไม่มีอันตราย เมื่อเดินทางเข้ามาเมืองไทยแล้ว เกิดการป่วยติดเชื้อก็สามารถรักษาให้หายได้

 

นายอนุทิน กล่าววต่อว่า ในช่วงแรกที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ประเทศไทยพบผู้ป่วยนำเข้าโดยเป็นชาวจีน ประเทศเพื่อนบ้านของเรา และเราก็ได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่ อาจเกิดปัญหาขาดแคลนทรัพยากร แต่วันนี้เราพร้อมแล้ว มีสารตั้งต้นในการผลิตยา หากผ่านการอนุมัติของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ทางองค์การเภสัชกรรม(อภ.) ก็สามารถผลิตได้ทันที และขณะนี้เรามีการสำรองยารักษาโควิด-19 กว่า 6 แสนเม็ด เพียงพอในการจ่ายยาให้แก่ผู้ป่วยทุกรายตั้งแต่อาการเล็กน้อย เพื่อไม่ให้มีอาการหนัก ดังนั้นประเทศไทยจึงไม่มีผู้ป่วยขั้นวิกฤต

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สภาพคล่องของประเทศไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ยังไม่ได้ถูกใช้ อย่างไรก็ตามภาคธุรกิจไม่สามารถนำเงินทุนที่มีฝากในธนาคารได้ตลอด เมื่อถึงเวลาที่ไม่มีความกลัวแล้วก็จะต้องมีการนำออกมาใช้ลงทุน

“ระบบคมนาคมขนส่ง ทางอากาศ บกและน้ำจะขึ้นมารองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย แต่สิ่งที่ตนและ รมว.กระทรวงคมนาคม คือการมอง 3 กระทรวงให้เป็นคลัสเตอร์ ให้เอื้อกันทั้งการคมนาคม สาธารณสุขและการท่องเที่ยว โดย 3 กระทรวงมีความสำคัญเพราะเป็นตัวเปิดทุกอย่าง ซึ่งผมและนายศักดิ์สยาม ขิดชอบ รมว.คมนาคม วันหนึ่งโทรคุยกันไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง หลักการคือไทยเฟิร์ส โครงสร้างพื้นฐานทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสนามบิน ท่าเรือ ระบบราง ทุกอย่างจะต้องเกิดขึ้นในประเทศไทยและทั้งหมดต้องไม่พึ่งพาฝรั่ง ใช้เงินบาท ใช้ของไทย ซื้อของไทย เพื่อให้คนไทยใช้ นี่คือหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ดำริไว้ เว้นแต่ถ้าอะไรที่คนไทยไม่มี ถึงจะให้ต่างชาติเข้ามาเป็นผู้ขายและเราซื้อมาต่อยอด และใช้แรงงานไทยให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทยต้องใช้ระบบเงินหมุนให้ได้แปดรอบ ถ้าเรามีเงินสองแสนล้านแล้วไม่ได้ใช้ สู้มีเงินหนึ่งร้อยล้านบาทแล้วหมุนได้ ซึ่งจะทำให้เงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาด้วย เผลอๆ ไม่เกิน 1 ปี เศรษฐกิจจะกลับมาดีเหมือนเดิม

“มีคนบอกว่า เอาแต่กู้ กู้ กู้ แต่ถ้าดอกเบี้ย 0% หรือ 0.5% ผมว่าก็ต้องกู้นะ แต่เงินกู้นั้นจะต้องให้เกิดความมั่นใจว่านำมาใช้อย่างมีประโยชน์และตรงนามเป้าหมาย ผมรอดมาได้ทุกวันนี้ก็ด้วยวิธีนี้แหละ ถ้ามีระเบียบวินัยในการใช้เงิน เงินกู้ก็จะทำกำไรมหาศาล วันนี้โครงการคมนาคมที่เกิดในรัฐบาลชุดนี้ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทั้งรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพอู่ตะเภา สนามบินอู่ตะเภา โครงการมอเตอร์เวย์ที่เปิดประมูลแล้วรัฐได้ราคาต่ำกว่าราคากลาง ซึ่งทำให้รัฐได้ประโยชน์จากการประหยัดงบประมาณ หลายคนสงสัยว่าต่ำกว่าราคากลางแล้วทำไมยังมีคนมาลงทุนทำไม ก็ต้องบอกว่าเขาเห็นโอกาสและสามารถต่อยอดไปได้อีกเยอะ ประเทศไทยได้ประโยชน์จากการประหยัดงบประมาณแต่ต้องเปิดให้มีการแข่งขันให้มากที่สุด และประเทศไทยจะต้องเป็นบายเออร์มาร์เก็ต ให้มากกว่าเซลเลอร์มาร์เก็ต ผมให้ความมั่นใจ” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ทุกโครงการที่ดำเนินการได้การรับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ เพราะเราได้มีการนำเสนอโครงการอย่างละเอียดจนท่านเข้าใจ นี่เป็นการทำงานแม้จะอยู่คนละพรรคการเมืองและเป็นรัฐบาลผสม อะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน รัฐบาลจะทำเต็มที่

“โควิด-19 ทำร้ายเรา แต่ก็ทำร้ายเราได้เพียงระยะหนึ่ง หลังจากนี้เราจะเอาคืนกลับมา รัฐบาลนี้คิดมาตลอดว่าจะทำอย่างไรให้ความแข็งแกร่งกลับสู่ประชาชน โครงการจาก 3 กระทรวงนี้จะทำให้มีเงินหมุนเวียน เงินที่หมุนมา หมุนไป จะพาไทย กลับมามั่นคง” นายอนุทิน กล่าว

ทั้งนี้ การจัดงานดำเนินไปตามข้อกำหนดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ สธ.กำหนดอย่างเคร่งครัด โดยภายในงานสัมมนามีการตั้งจุดคัดกรองอุณหภูมิร่างกายของผู้เข้าร่วมงาน บริการจุดล้างมือเลยแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่างของเก้าอี้และผู้ร่วมงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคขณะเข้าร่วมงาน พร้อมทั้งถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก “Matichon Online – มติชนออนไลน์” เพื่อเผยแพร่เนื้อหาในเวทีเสวนาออกไปสู่ประชาชนอย่างเต็มที่

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image