นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.) มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ว่า ที่ประชุมกบง.เห็นชอบปรับลดราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ตามต้นทุนตลาดโลก พร้อมปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งผลให้ราคาแอลพีจีขายปลีกเดือนกุมภาพันธ์ลดลงประมาณ 2 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) อยู่ที่ 20.29 บาทต่อกก. และมีมติยกเลิกการชดเชยค่าขนส่งแอลพีจีไปยังคลังภูมิภาคต่างๆของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซแอลพีจี อย่างไรก็ตาม จะยังควบคุมราคาขายหน้าคลังแอลพีจีทั่วประเทศเป็นเวลา 3 เดือน ส่งผลให้ราคาขายปลีกจะมีการเปลี่ยนแปลงต่างกันไปตามต้นทุนการขนส่งของคลังภูมิภาค มีผลตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป
นายทวารัฐกล่าวว่า ราคาขายปลีกแอลพีจีที่ลดลง ราคากรุงเทพฯ ปริมณฑลและภาคตะวันออก จะลดลง 2 บาทต่อกก. หรือ 30 บาทต่อถัง 15 กก. ราคาขายปลีกอยู่ที่ 20.29 บาท/กก. คลังนครสวรรค์ ลดลง 13.67 บาทต่อถัง หรือลดลง 0.92 บาทต่อกก. ราคาขายปลีก 21.37 บาทต่อกก. คลังลำปางไม่ปรับลดราคาขายปลีกเพราะอยู่ระยะไกลสุดและที่ผ่านมาได้รับการชดเชยเต็มจำนวน 2 บาทต่อกก. ราคาจึงยังอยู่ที่ 22.29 บาทต่อกก. คลังขอนแก่นลดลง 7.48 บาทต่อถัง หรือลดลง 50 สต.ต่อกก.ราคาขายปลีก 21.79 บาท ต่อกก. คลังสุราฎร์ธานี ลดลง 24.61 บาทต่อถัง หรือ 1.64 บาทต่อกก. ราคาขายปลีก 20.65 บาทต่อกก. คลังสงขลา ลดลง 24.28 บาทต่อกก. ลดลง 1.62 บาทต่อกก. ราคาขายปลีก 20.67 บาทต่อกก.
“หลังปรับราคายังคงคุมราคาหน้าคลัง 3 เดือนเพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัว รวมถึงป้องกันผู้ค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา กบง.จึงมอบให้กรมธุรกิจพลังงาน สนพ.ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ดูแล” นายทวารัฐกล่าว
