‘จุรินทร์’ ขันน็อต “ทูตพาณิชย์-พณ.จังหวัด” ลั่นไม่ปรับการทำงานเรียกตัวกลับ-ขู่ย้าย

‘จุรินทร์’ ขันน็อต “ทูตพาณิชย์-พณ.จังหวัด” ลั่นไม่ปรับการทำงานเรียกตัวกลับ-ขู่ย้าย

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์เตรียมเรียกประชุมเพื่อมอบนโยบายการทำงานให้กับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ทั่วโลก ในรูปแบบประชุมทางไกล เพื่อให้เข้าใจตรงกันถึงนโยบายในการทำงานและการขับเคลื่อนการส่งออกของประเทศ ต้องเพิ่มความเข้มข้นในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การทำงานต้องไม่หยุดนิ่ง และเตรียมพร้อมหลังโควิด-19 คลี่คลาย จากการมีวัคซีน ต้องปรับแผนการทำงานเป็นเชิงรุกเข้าถึงผู้ซื้อทันที

“ผมเคยให้นโยบายไปแล้วว่าทูตพาณิชย์ คือ เซลส์แมนของประเทศ ต้องทำหน้าที่เป็นเซลส์แมนจริงๆ ไม่ใช่ทำแต่ในนาม ต้องวิ่งเข้าหาลูกค้า ต้องไปขายของ จากนี้ใช้ตัวชี้วัดใหม่ โดยวัดว่าทูตพาณิชย์ทำงานสำเร็จตามนโยบายและแผนงานที่ได้กำหนดไว้ ดูผลจากตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นหรือไม่ ขายสินค้าเพิ่มเติมแค่ไหน แก้ไขปัญหาอุปสรรคการส่งออกได้ทันเหตุการณ์ ส่งเสริมผู้ประกอบการหรือแนะนำการเจาะตลาดได้มากน้อยแค่ไหน จะไม่ใช่แค่ทำรายงานข้อมูลการค้า ตอนนี้สถานการณ์การค้าเปลี่ยนเร็วมาก ทุกประเทศรุกหนัก ทำแบบเดิมๆไม่เพียงพอแล้วในยุคปัจจุบัน” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้สั่งการผ่านนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ รับไปดำเนินการต่อ และสั่งการให้นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ไปกำชับการทำงานของทูตพาณิชย์แล้ว หากทูตพาณิชย์ทำไม่ได้ หรือไม่ทำ ให้เอาตัวกลับ ไม่ต้องรอให้อยู่ครบเทอม ทำแบบนี้เพื่อไม่ให้ประเทศเสียหาย เสียประโยชน์ หรือหากอธิบดีไม่กำกับดูแลก็ต้องพิจารณาการทำงานของอธิบดีด้วย ขณะเดียวกันในประเทศ ก็ให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปรับโฉมการทำงานของพาณิชย์จังหวัด ในฐานะเซลส์แมนจังหวัดใหม่ด้วย ทำหน้าที่เหมือนพ่อค้า และพี่เลี้ยง ซึ่งที่ผ่านมาหลายจังหวัดทำได้ดี แต่ยังมีอีกหลายจังหวัดทำงานไม่มีความคืบหน้า ก็จะใช้ตัวชี้วัดผลงานแบบเดียวกับทูตพาณิชย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 14 ธันวาคม นายจุรินทร์ พร้อมผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมท่าเรือคลองเตย กรุงเทพฯ เพื่อหาแนวทางลดปัญหาขาดแคลนตู้สินค้าและอัตราค่าระวางเรือที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กำลังมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในปัจจุบันและช่วง3-4 เดือนจากนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image