ลงตัว! “สนธิญาณ” ยกทีม “กนก-เจ๊ปอง-ธีระ” ลงช่อง TOP TV ประกาศออนแอร์มกราฯนี้
หลังจากที่ก่อนหน้านี้อดีตทีมผู้บริหารและพิธีกร เนชั่นทีวี ที่นำโดย นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นายกนก รัตน์วงศ์สกุล, อัญชะลี ไพรีรัก และทีมงาน ได้ประกาศลาออกจากเครือเนชั่นยกทีม และมีข่าวว่าจะไปอยู่ช่อง นิวทีวี และช่อง 9 อสมท แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ลงตัวนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. เพจเฟซบุ๊ก TOP News LIVE เว็บไซต์ข่าวและสื่อ ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า คุณสนธิญาณ แถลงแล้ว!! ลาออกจากเนชั่นทีวี และยืนยันเตรียมพบกันช่อง TOP TV มกราคม 2564 นี้แน่นอน ยืนหยัดอุดมการณ์เดิม นำเสนอความจริง ต่อสู้กับคนที่ต้องการทำลายชาติบ้านเมือง ต่อสู้กับคนที่ต้องการล้มล้างสถาบัน พร้อมลงภาพ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ในการโปรโมตเพจ ร่วมกับอดีตผู้ประกาศข่าวเนชั่นที่ลาออก อาทิ อัญชะลี ไพรีรัก, กนก รัตน์วงศ์สกุล, ธีระ ธัญไพบูลย์, อุบลวรรณ เถาว์น้อย, สันติสุข มะโรงศรี, สถาพร เกื้อสกุล เป็นต้น ขณะที่ในเพจยังโพสต์ภาพเบื้องหลังการทำงานของกองบรรณาธิการ ระบุว่า “ทีมงานพร้อม ใจพร้อม คนพร้อม พบกัน มกราคม 2564” บริเวณห้องสัมมนา B สถาบันทิศทางไทย อาคารชื่นฤทัยในธรรม
ขณะเดียวกันทางเพจดังกล่าวได้มีการโพสต์ข้อความของนายสันติสุขด้วย โดยระบุว่า ขอแจ้งข่าวครับ สอบถามกันมากว่า เดือน ม.ค.นี้ จะติดตามชม ต้องสมัครสมาชิกเคเบิลไหน ต้องซื้อจานดาวเทียมมั้ย ขายจานด้วยเลยสิจะได้สะดวก ตอบว่า ยังไม่ต้องครับ เดือน ม.ค.นี้ ติดตามดูได้ทางช่องง่ายๆ นี่แหละครับ จะเป็นเลขช่องไหน ใกล้ๆ รอคุณสนธิญาณแจ้งอีกครั้งนะครับ
ในระหว่างนี้ ท่านที่สนใจติดตามข่าวสารบ้านเมือง ประกอบข้อมูลเชิงลึก ประเภทชัดครบจบจริง รวมถึงความเคลื่อนไหวของพวกเรา ทั้งภาพทั้งคลิป เชิญไปกดติดตามได้ที่นี่ครับ ชื่อแฟนเพจ Top News Live
ห่างหายหน้าจอ แต่ไม่ห่างเหินครับ
อย่าลืม ม.ค.นี้ ตามเช็คบิลทุกข่าวที่ค้างคาด้วยกัน ทางหน้าจอทีวีครับ
มีนาชาแนล รายงาน.
อย่างไรก็ตามขณะเดียวกัน นายสนธิญาณ ผู้ก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย ก็ได้พูดในรายการ “สนธิญาณ ชัด ครบ จบ จริง” ทางยูทูบสถาบันทิศทางไทย ถึงการลาออกจากเนชั่น และการทำทีวีช่องใหม่ ความยาวประมาณเกือบ 8 นาทีว่า ที่ไม่พูดตลอดมาไม่ใช่ว่ากลัวหรือไม่มีทางไป แต่ถือคติ “เสือไม่เห่า” เข้าไปที่เนชั่นทีวี เพราะถูกกราบกรานขอร้องให้ไปช่วยบริหาร แก้วิกฤต โดยเอาเงินที่ขายกิจการ 30 ล้านไปลงทุนด้วย วันนี้ยังค้างชำระ 15 ล้าน ไปเริ่มทำบริษัทที่ขาดทุนสะสมเป็นพันล้านบาท ปีก่อนหน้าที่ตนเข้าไปขาดทุนอยู่ราว 200 ล้านบาท จนกลับมามีกำไรปริ่มน้ำได้ ขณะที่ทีวีช่องอื่นขาดทุน ต้องเอาพนักงานออกหรือปิดกิจการไป แต่ที่เนชั่นทีวีแจกโบนัส
นายสนธิญาณ กล่าวว่า วันที่ลาออกมาไม่ได้มีปัญหากับใคร แต่มีปัญหาความคิดเชิงอุดมการณ์ ไม่พูดว่าใครถูกใครผิด แต่ในชีวิตการทำข่าวมา 30 เกือบ 40 ปี ยืนหยัดหลักการข้อหนึ่ง คือ การนำเสนอความจริง ที่สำคัญ ภาคภูมิใจตลอดมาที่เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยรักษาประเทศชาติให้พ้นจากคนที่คิดทำลาย การทำงานที่เนชั่นทีวีจนได้รับความนิยม ไม่ใช่เรื่องฟลุค
“การทำข่าวที่ประสบความสำเร็จในทุกงานที่เข้าไปจับ และคิดเป็นคนแรก เป็นที่มาของความมั่นใจว่าเนชั่นทีวีประสบความสำเร็จเพราะฝีมือและประสบการณ์ ไม่ใช่ความฟลุค ส่วนลาออกเพราะอุดมการณ์ไม่ตรงกัน ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่ตัวเองทำถูก และสิ่งที่กำลังทำอยู่ปัจจุบันผิด ความจริงก็คือความจริง ซึ่งจะปรากฏขึ้นให้เห็นในอนาคต และจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ให้คนข้างหลังจดจำ ซึ่งอนาคตข้างหน้าจะเป็นเรื่องชี้ขาด” นายสนธิญาณกล่าว
นายสนธิญาณกล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีสื่อนำเสนอว่า จะเปิดแถลงข่าววันที่ 16 ธ.ค.63 และออกอากาศวันที่ 21 ธ.ค.นั้น ยืนยันว่าตนไม่เคยพูดสักคำ เพื่อนฝูงคนรู้จัก ผู้ที่ห่วงใยมากมายไต่ถามมา ก็บอกดูเนื้อข่าวให้ดี ยังไม่พูดไปเอาที่ไหนมารายงานข่าวมา แต่วันนี้ตัวจริงเสียงจริงพูดเอง ความพยายามใดๆ ในการที่จะออกข่าวทั้งในเชิงบวกจากผู้ปรารถนาดี และในเชิงลบเพื่อที่จะบั่นทอนหรือทำลายความน่าเชื่อถือของทีมงานทั้งหมดขอเรียนว่าเป็นความพยายามที่สูญเปล่า เพราะคนที่จะตัดสินใจคือผู้ชม และประชาชนคนไทย ส่วนเรื่องข่าวที่มีการระบุว่าเอาเงินจากรัฐบาล เอาเงินมาจากผู้มีอำนาจ ก็เป็นสิทธิที่จะพูดได้ เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนว่าการนำเสนอข่าวของเนชั่นทีวีในยุคของตนเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง
“เราต่อสู้กับคนที่ต้องการทำลายชาติบ้านเมือง เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ตอบสนองอำนาจที่ตัวเองอยากจะได้กลับมา เราต่อสู้กับคนที่ต้องการล้มล้างสถาบัน นั่นคือ เหตุผลที่ต้องเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นหัวหอกในการต่อสู้กับคนที่คิดทำลายชาติบ้านเมือง แต่ขณะเดียวกัน เนชั่นทีวีขณะนั้นก็ตรวจสอบโครงการทุจริตต่างๆ มากมายชัดเจน คนติดตามก็ย่อมเห็น รายได้ที่เข้ามาที่เนชั่นทีวี มาจากขายโฆษณาปกติ ยอดขาย 40 ล้าน มาจากราชการแค่ 1-2 ล้าน ชีวิตผมรู้จักนักการเมืองเยอะ ปะทะกับนักการเมืองและผู้มีอำนาจมาแล้วทุกคน ผมไม่เคยไปขอเงินใคร แม้แต่เงินโฆษณา เพราะผมมั่นใจในสิ่งที่ผมทำ มั่นใจในความสำเร็จที่ประชาชนยอมรับ และธุรกิจโฆษณาต้องเข้ามาสนับสนุน ส่วนเงินที่จะจัดตั้งและดำเนินการธุรกิจทีวีในอนาคต ผมเคยเป็นเจ้าของคอมมูนิตีมอลล์ เคยเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม สร้างตึกของตัวเองได้จากกำไรในการทำธุรกิจข่าวสาร มีเครดิตพอจะกู้แบงก์หรือกองทุนที่จะทำงานต่อไปได้ เดือน ม.ค.นี้ พบกันแน่นอน ทีมงานทุกคนในนาม ท็อปทีวี เดี๋ยวจะมีรายละเอียดตามไป ขอกราบขอบพระคุณคนไทยที่ติดตามรอดูพวกเราอย่างใจจดใจจ่อ เดือน ม.ค. ได้ดูอย่างแน่นอน แล้วเราจะได้ทำหน้าที่ร่วมกันในการรายงานข่าวสารที่เป็นจริง เปิดโปง ตีแผ่ความเลวร้ายของขบวนการทำลายชาติ” นายสนธิญาณกล่าว
