บิ๊กตู่สั่งด่วน เร่งสธ.หาวัคซีนเพิ่มเติม มอบ ‘สุพัฒนพงษ์’ ทำงานคู่ขนานเอกชนกระจายวัคซีน

บิ๊กตู่สั่งด่วน เร่งสธ.หาวัคซีนเพิ่มเติม มอบ ‘สุพัฒนพงษ์’ ทำงานคู่ขนานเอกชนกระจายวัคซีน

ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้แทนภาคเอกชน เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือการจัดหาวัคซีนระหว่าง ภาครัฐและภาคเอกชน ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในช่วงบ่ายของวันที่ 28 เมษายน นั้น นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ เรื่อง “แนวทางความร่วมมือการจัดหาวัคซีน ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (กกร.)” ประกอบด้วย

1.“ด้านการกระจายและฉีดวัคซีน” เห็นชอบแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการกระจายและฉีดวัคซีนของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งใน พื้นที่กรุงเทพมหานคร สำหรับต่างจังหวัดให้ผ่านกลไก กรอ. กลุ่มจังหวัดและระดับจังหวัด และให้กระทรวง สาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และภาคเอกชน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รับไปพิจารณาเร่งรัดจัดทำ แผนการจัดหาและการกระจายวัคซีน และพิจารณา รายละเอียดของต้นแบบ (Model) การกระจายฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดย ให้ความสำคัญกับความพร้อมของสถานที่ บุคลากร อุปกรณ์ทางการแพทย์ และคำนึงถึงมาตรการด้าน สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การกระจายการให้บริการเป็นไปอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

2. “ด้านการสร้างความเชื่อมั่นและประชาสัมพันธ์” ให้ภาคเอกชนรับไปประสานเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับไปดำเนินการ สร้างความเชื่อมั่นและประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนเพื่อลดความวิตกกังวลของประชาชน เช่น การจัดหา วัคซีนให้เพียงพอ การลงทะเบียนที่มีประสิทธิภาพ การจัดหาสถานที่ฉีดวัคซีนที่เหมาะสมการอ านวย ความสะดวกในการเดินทางในการฉีดวัคซีน และการดูแลรักษาภายหลังจากการฉีดวัคซีน พร้อมทั้งการ พิจารณากำหนดผู้ประสานงานหลัก (Focal point) ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ชัดเจน และกำหนด แนวทางการประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ของวัคซีนอย่างถูกต้องในรูปแบบ Single Message เพื่อให้การ สื่อสารเป็นเอกภาพ

3. “ด้านการสนับสนุนระบบอำนวยความสะดวกระบบงานต่าง ๆ” ให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้อ านวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) ร่วมกับภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับไปพิจารณาระบบการลงทะเบียนและการติดตามผู้ฉีดวัคซีนของภาคเอกชนให้เชื่อมโยงกับระบบของ ธนาคารกรุงไทยอย่างมีเอกภาพโดยตรง และให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานดูแลการลงทะเบียนใน 5 กลุ่มเป้าหมายหลัก

Advertisement

ประกอบด้วย 1. บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชน 2. เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เช่น ทหาร ต ารวจตรวจคนเข้าเมือง 3. ประชาชนที่มีโรคประจำตัว 4. ประชาชนสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 5.ประชาชนในพื้นที่ระบาดผ่านแอพลิเคชัน “หมอพร้อม” ต่อไป

4. “ด้านการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม” ให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) รับไป พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน ให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการสภา พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภาคเอกชน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้า แห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องรับไปดำเนินจัดท าแผนการบริหารจัดหาวัคซีนและกระจายวัคซีนให้เป็นระบบและเกิดผลเป็นรูปธรรม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image