พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แผนบูรณาการพลังงานระยะยาวซึ่งประกอบด้วย 5 แผนสำคัญได้แก่ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย(พีดีพี 2015) แผนอนุรักษ์ (อีอีพี 2015) แผนพัฒนาพลังงานทดแทน (เออีดีพี 2015) แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง และแผนบริหารจัดการก๊าซ ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายที่จะปรับแผนแต่ให้มีการติดตามใกล้ชิดโดยเฉพาะแผนเออีดีพี ที่มีการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนค่อนข้างมากที่จำเป็นต้องคำนึงถึงเทคโนโลยีในอนาคตที่อาจมีต้นทุนที่ต่ำลงและต้องก่อให้เกิดความมั่นคงระบบไฟฟ้าเป็นสำคัญ
” ยังไม่มีการปรับแผนใดๆ แต่ให้ติดตามใกล้ชิดอย่างพลังงานทดแทนต้องดูความมั่นคง และมีความสมดุลเกิดขึ้น ให้มีการผลิตได้ 24 ชั่วโมง กระทบกับค่าไฟให้น้อยสุดเมื่อมาเฉลี่ยตลอดแผน ซึ่งการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนแม้ว่าจะมีพันธะผูกพันแล้ว 9,000 เมกะวัตต์ ถือว่ายังไม่ได้เกินแผนที่วางไว้ที่สิ้นสุดปี 2579 จะซื้อทั้งสิ้น 16,000 เมกะวัตต์”พล.อ.อนันตพรกล่าว
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่า สนพ.กำลังติดตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนใกล้ชิดเพื่อปรับแนวทางการรับซื้อที่จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนเออีดีพี เนื่องจากบางเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วโดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ที่แนวโน้มต้นทุนลดลงแต่ยังไม่ตอบโจทย์ของระบบการผลิตไฟฟ้าที่เสถียร และหากจะต้องลงทุนเพื่อให้มีระบบกักเก็บก็ต้องลงทุนเพิ่มอีก 5-8 เท่าตัว