นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวภายหลังการลงนามสัญญางานจัดซื้อและจ้างก่อสร้างโครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้าลำตะคอง ระยะที่ 2 กับบริษัทไฮโดรไชน่า และลงนามสัญญางานจัดซื้อและจ้างก่อสร้างโครงการพัฒนาเสถียรภาพในการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม กับกิจการค้าร่วม ไฮโดรเจนิกส์ ยุโรป เอ็น.วี และบริษัท พระราม 2 การโยธา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนผู้ชนะการประกวดราคา ว่า โครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้าลำตะคอง ระยะที่ 2 ตั้งอยู่บริเวณสันเขายายเที่ยง บ้านยายเที่ยงเหนือ ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว และตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีขนาดกำลังผลิตติดตั้งรวม 24 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยกังหันลม จำนวน 12 ต้น ต้นละ 2 เมกะวัตต์ เป็นกังหันลมแบบแกนนอน สำหรับความเร็วลมต่ำ ขนาดความสูงของเสา 94 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางของใบพัด 116 เมตร มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้น โดยมีบริษัท ไฮโดรไชน่า เป็นผู้จัดหาอุปกรณ์และก่อสร้างจนแล้วเสร็จ รวมมูลค่างานก่อสร้างกว่า 1,407 ล้านบาท คาดกำหนดแล้วเสร็จสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ในเดือนตุลาคม 2560
“กฟผ.ดำเนินโครงการพัฒนาเสถียรภาพในการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมขึ้น โดยนำระบบ Wind Hydrogen Hybrid System ขนาดกำลังผลิต 300 กิโลวัตต์ มาเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บพลังงานไฟฟ้าจากกังหันลมในรูปแบบของก๊าซไฮโดรเจน เมื่อนำเข้าใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง ก๊าซไฮโดรเจนจะผ่านเซลล์เชื้อเพลิงและเกิดเป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องผ่านการเผาไหม้ ซึ่งระบบดังกล่าวถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถนำพลังงานไฟฟ้าที่กักเก็บในรูปแบบของก๊าซไฮโดรเจนมาใช้งานได้อย่างสม่ำเสมอตลอดวัน”นายกรศิษฏ์กล่าว