สวนดุสิตโพล เผย ผลสำรวจส่วนใหญ่มองพิษศก.ทำให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ อาจ “ยุบสภา”

สวนดุสิตโพล เผย ผลสำรวจส่วนใหญ่มองพิษศก.ทำให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ อาจ “ยุบสภา”

 

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับพิษเศรษฐกิจ” พบวิกฤติเศรษฐกิจ ณ วันนี้ ทำให้ประชาชนต้องประหยัดและวางแผนการใช้จ่ายมากขึ้น โดยมองว่ามาตรการต่าง ๆ ของรัฐ เช่น คนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ฯลฯ ช่วยลดภาระได้บ้าง ซึ่งวิกฤติเศรษฐกิจส่งผลให้มีความเครียดในระดับมาก สิ่งที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการคือควบคุมราคาสินค้า ลดค่าครองชีพ และมองว่าปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้ทำให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ อาจยุบสภา ทั้งนี้จากข่าว “ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่” น่าจะเป็นไปได้ และหากได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ประชาชนคิดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะดีขึ้น

โดยนางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า สวนดุสิตโพล ได้สํารวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จํานวนทั้งสิ้น 1,148 คน (สํารวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 14-17 กุมภาพันธ์ 2565 พบว่า วิกฤติเศรษฐกิจ ณ วันนี้ ทําให้ประชาชนต้องประหยัดและวางแผนการใช้จ่ายมากขึ้น ร้อยละ 62.76 โดยมองว่ามาตรการต่าง ๆ ของรัฐ เช่น คนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯลฯ ช่วยลดภาระได้บ้าง ร้อยละ 63.21 วิกฤติเศรษฐกิจส่งผลให้มีความเครียดในระดับมาก ร้อยละ 65.23 สิ่งที่รัฐบาลควรเร่งดําเนินการคือควบคุมราคาสินค้า ลดค่าครองชีพ ร้อยละ 89.90 ปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้ทําให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ อาจยุบสภา ร้อยละ 78.82 จากข่าว “ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่” น่าจะเป็นไปได้ ร้อยละ 59.88 หากได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ประชาชนคิดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะดีขึ้น ร้อยละ 52.19 วิกฤติเศรษฐกิจทําให้ประชาชนรู้สึกเครียดมากขึ้น โดยพบมากในกลุ่มอายุ 30 – 39 ปี ที่มีความเครียดสูงกว่ากลุ่มอายุอื่น ๆ รองลงมาคือกลุ่มอายุ 40 – 49 ปี ซึ่งกลุ่มนี้เป็นวัยทํางานเป็นกําลังสําคัญของครอบครัว ถึงแม้จะมีมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลแต่ก็เป็นเพียงการช่วยรักษาระดับการใช้จ่ายในระยะสั้น ๆ เท่านั้น ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่เช่นนั้นประชาชนก็จะยิ่งไม่เชื่อมั่นและนําไปสู่ทางตันของรัฐบาลก็เป็นได้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุระสิทธิ์ ทรงม้า รองคณบดีฝ่ายบริหาร และอาจารย์ประจําหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่าพิษเศรษฐกิจครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนจํานวนมากทุกระดับรุนแรงมากน้อยแตกต่างกันไป จากมาตรการ ป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 เห็นได้ชัดเจนคือประชาชนมีรายได้ลดลง แต่รายจ่ายคงตัว หรือมากขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล ทําให้ประชาชนเกิดความเครียดจนถึงกับคิดสั้นฆ่าตัวตาย ซึ่งมีข่าวอยู่เป็นระยะ สิ่งที่ภาครัฐช่วยได้ คือ ทําอย่างไรให้ประชาชนสามารถดํารงชีพอยู่ได้ อย่างน้อยข้าว ปลา อาหาร ต้องควบคุมราคา ดูแลเรื่องสุขภาพ เมื่อเจ็บป่วยมีระบบสาธารณสุขที่เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม มาตรการการแจกเงินคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐถือได้ว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ เมื่อมีผู้ซื้อ ผู้ขายก็มีความต้องการสินค้า เกิดการขนส่ง มีการจ้างงานตามมา โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการหากไม่ได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนเมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่พ้นที่ประชาชนต้องถูกเลิกจ้างงานเป็นภาระของรัฐบาลที่ต้องดูแล ปัญหาด้านเศรษฐกิจผูกพันกับรัฐบาลหากไม่เร่งแก้ไข รัฐบาลเองจะอยู่ไม่ได้ในที่สุด

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image