“สันติ” แย้ม คลังเปิดลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ ก.ค.-ส.ค.นี้ เตรียมพร้อมเชื่อมข้อมูลกว่า 40 หน่วยงานช่วยคัดกรอง
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ ว่า ขณะนี้แบบฟอร์มต่างๆ ที่จะใช้ในการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการเชื่อมระบบออนไลน์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 40 หน่วยงาน อาทิ กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย สถาบันการเงินของของรัฐและเอกชน เป็นต้น เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติในส่วนของรายได้ สินทรัพย์ต่างๆ ทั้ง บ้าน รถ ที่ดิน เงินฝาก และอื่นๆ ตามเกณฑ์คัดกรองใหม่ที่กำหนดไว้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนได้ช่วงกรกฎาคม – สิงหาคม 2565
“ขณะนี้อยู่ระหว่างเชื่อมระบบกับ 40 กว่าหน่วยงาน สำหรับการตรวจสอบคัดกรองคุณสมบัติ เรื่องของรายได้และทรัพย์สินซึ่งในส่วนของแบบฟอร์มที่จะให้กรองตอนนี้เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะพร้อมเปิดให้ลงทะเบียนได้ช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2565 โดยระหว่างนี้บัตรสวัสดิการฯ อันเดิมยังสามารถใช้ได้อยู่ จนกว่าจะเริ่มใช้บัตรสวัสดิการฯ อันใหม่ ซึ่งจะใช้บัตรประชาชนแทนบัตรสวัสดิการฯ ใบเดิม” นายสันติ กล่าว
นายสันติ กล่าวว่า ขณะที่การดูแลกลุ่มเปราะบางและผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงที่ภาระค่าครองชีพเพิ่มขึ้นจากราคาพลังงานและสินค้านั้น ขณะนี้คณะทำงานฯ มีการประชุมหารือเพื่อประเมินผลกระทบอย่างใกล้ชิด เพื่อนำเสนอที่ประชุมในระดับนโยบาย ก่อนพิจารณาว่าจำเป็นต้องมีมาตรการใดออกมาช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการรอบใหม่ ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ได้รับสิทธิจำนวน 13.45 ล้านคน โดยในรอบใหม่ จำนวน 20 ล้านคน โดยจะเปิดลงทะเบียนและคัดกรองในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 และเริ่มใช้สิทธิใหม่ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565
ส่วนเงื่อนไข มี 8 ข้อ ได้แก่ 1.มีสัญชาติไทย 2.มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป 3.ไม่เป็นบุคคลตามที่ประกาศ 4.รายได้ของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคนต่อปี และหากมีครอบครัว รายได้เฉลี่ยไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคนต่อปี 5.ทรัพย์สินทางการเงินส่วนบุคคลและเฉลี่ยต่อครอบครัวต้องมีมูลค่าไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคน 6.กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด 7.ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีบัตรเครดิต และ 8.ต้องไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ สำหรับที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และสำหรับยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท