จุรินทร์ ย้ำของแพงต้นตอราคาน้ำมันพุ่ง ฉุดราคาขนส่งสูง ชี้ ปาล์มขวดแพงตามราคาขายปาล์มสด

จุรินทร์ ย้ำของแพงต้นตอราคาน้ำมันพุ่ง ฉุดราคาขนส่งสูง ชี้ ปาล์มขวดแพงตามราคาขายปาล์มสด

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง ว่าตนติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด แต่ต้องยอมรับความจริงว่าสินค้าที่มีการปรับราคาสูงขึ้นบางรายการมีผลมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และจะมีผลต่อต้นทุนการผลิตและราคาขนส่ง โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ไกลต้องรับภาระมากขึ้นเพราะค่าขนส่งแพงขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์พยายามกำกับดูแลให้ดีที่สุดโดยดูจากต้นทุนเป็นหลัก สำหรับราคาหน้าโรงงาน ขณะนี้ก็กำกับราคาไว้เพื่อให้เป็นภาระกับผู้บริโภคน้อยที่สุด แต่ไม่ให้ไปกระทบกับเกษตรกรที่ขณะนี้ได้ราคาพืชผลการเกษตรดีมาก ทั้งยาง ปาล์ม ข้าวโพด มันสำปะหลัง และข้าว เนื่องจากปีนี้การส่งออกจะเพิ่มจากปีที่แล้วที่ส่งออกเพียง 6.1 ล้านตัน แต่ปีนี้คาดว่าจะเป็น 7-8 ล้านตัน แต่ขณะนี้ผู้บริโภคอาจได้รับความเดือดร้อนจากราคาผลปาล์ม เพราะราคาขึ้นไปกิโลกรัมละ 10-12 บาท ก็จะทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มสูงขึ้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์พยายามจับมือกับผู้ผลิตน้ำมันปาล์มขวดในการแก้ปัญหาร่วมกัน กำกับราคาไม่ให้สูงกว่าราคาโครงสร้าง

นายจุรินทร์กล่าวว่า โดยขณะนี้น้ำมันปาล์มขวดบริโภคตกราคาขวดละ 76.50 บาท แต่เรากำกับราคาและปรับลงมาเหลือ 66.50 บาท ในราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ แต่บางพื้นที่อาจสูงกว่าเนื่องจากราคาขนส่ง ซึ่งเราพยายามจะตรึงราคาให้นานที่สุด และจะมีการหารือร่วมกันกับตัวแทนเกษตรกรปลูกปาล์ม เพราะเขาต้องการราคาดีที่สุด ขณะที่โรงงานสกัดก็ซื้อไปในราคาแพง ส่งผลให้ราคาน้ำมันขวดสูงขึ้น แต่เราพยายามกดราคาลงมาขวดละ 10 บาท ซึ่งที่มีการหารือกันเราตั้งหลักว่าจะมีการดูแล 2 ตัว คือราคาให้ผู้บริโภคเดือดร้อนน้อย ผู้ผลิตได้ราคาดี และเรื่องปริมาณไม่ให้น้ำมันปาล์มขาด จะมีข้อตกลงร่วมกันว่าปริมาณสต๊อกควรอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งช่วงนี้ผลผลิตปาล์มกำลังทยอยออก

ส่วนเรื่องการส่งออกนั้นจะมีคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 ชุดตัวแทนเกษตรกร โรงงานสกัด โรงผลิตน้ำมันปาล์มบริโภค มาร่วมกำหนดว่าค่าส่งออกจะมากน้อยแค่ไหนอย่างไร โดยให้กำหนดสต๊อกไว้ว่าแต่ละเดือนจะเป็นเท่าไหร่ ถ้าเกินก็ส่งออกได้ ถ้าไม่เกินก็เน้นในประเทศให้เพียงพอก่อน โดยตนจะดำเนินการให้เร็วดูแลทุกฝ่ายให้ดีที่สุด

Advertisement

นายจุรินทร์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีราคาสินค้าหลายตัวที่ปรับลดลงมา เช่น ถั่วฝักยาว ราคาเฉลี่ย 55.50 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ราคา 62.78 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนผักกาดขาวปลี 31.50 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ปีที่แล้ว 32.50 บาทต่อกิโลกรัม ต้นหอมกิโลกรัมละ 65 บาท ปีที่แล้ว 68.50 บาทต่อกิโลกรัม เป็นต้น รวมทั้งราคาชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนมีการจัดโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนปรับลดลงมาสูงสุด 65 เปอร์เซ็นต์ และทุกตัวจะไม่มีการปรับขึ้น จะตรึงราคาไว้ ซึ่งสถานการณ์ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วแม้บางตัวจะปรับสูงขึ้นจริง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image