หอค้าเชียงใหม่ ผวา ‘นอมินีจีน’ ขยับลงทุนฮุบธุรกิจ ‘โรงแรม-ร้านอาหาร-สถานบันเทิง-ทัวร์’

หอการค้าเชียงใหม่ผวา ‘นอมินีจีน’ ขยับลงทุนฮุบธุรกิจ ‘โรงแรม-ร้านอาหาร-สถานบันเทิง-ทัวร์’ ห่วง ‘ธุรกิจสีเทา’ บ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจประเทศ

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า นักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และท่องเที่ยวในเชียงใหม่ และภาคเหนือ เริ่มขยับการลงทุนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เพราะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแล้ว ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนด้านท่องเที่ยว

อาทิ โรงแรม ภัตตาคารร้านอาหาร สปา สถานบันเทิง และทัวร์ เพื่อนำนักท่องเที่ยวจีนมายังเชียงใหม่และภาคเหนือ แต่นักลงทุนดังกล่าว ส่วนมากถือวีซ่าท่องเที่ยว จึงไม่ต้องเสียภาษี ทำให้ได้เปรียบนักลงทุนท้องถิ่น เพราะต้นทุนต่ำกว่า ประกอบกับค่าเงินหยวนแข็ง ทำให้ได้เปรียบอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท ทำให้นักลงทุนจีน มีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น มีอำนาจซื้อและต่อรองสูงขึ้น

ซึ่ง ททท.ประเมินว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวจีนเข้าสู่เชียงใหม่ และภาคเหนือ กว่า 2 ล้านคน ส่วนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่ลงทุนมากว่า 10 ปีแล้ว โดยลงทุนร่วมกับนักลงทุนท้องถิ่น หรือนอมินี ทำหมู่บ้านจัดสรรชาวจีนในพื้นที่ อ.หางดง อ.สันกำแพง เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยหรือบ้านหลังที่ 2 แต่ได้ชะลอตัวช่วงโควิด 2-3 ปี ที่ผ่านมา

ดังนั้นรัฐต้องออกกฎหมายเช่าที่ดินระยะยาว 99 ปี เพื่อจัดเก็บภาษี ค่าธรรมเนียม เป็นรายได้ให้ท้องถิ่นนำไปพัฒนาชุมชนแทน พร้อมจัดระเบียบควบคุมชุมชนชาวจีน ให้ปฎิบัติตามระเบียบกฎหมายไม่มีอำนาจหรืออภิสิทธิ์ใดๆ เหนือดินแดนไทย

Advertisement

นายจุลนิตย์ กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การลงทุนแบบแอบแฝง หรือธุรกิจสีเทา ที่นำไปสู่อาชญากรรมข้ามชาติ และการฟอกเงินที่ผิดกฎหมาย อาทิ ยาเสพติด บ่อนกาสิโน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่บ่อนทำลายและสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจประเทศ ดังนั้นรัฐต้องมีมาตรการป้องกันและปราบปรามจริงจัง พร้อมบังคับใช้กฎหมายการสงวนอาชีพคนไทยไม่ให้ต่างชาติลงทุน หรือประกอบอาชีพได้ เพื่อคุ้มครองสิทธิ รักษาผลประโยชน์นักลงทุน ผู้ประกอบการในประเทศ และท้องถิ่น

เชื่อคนไทยมีศักยภาพ สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ ซึ่งหอการค้า อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล สถิติการลงทุนชาวจีน เพื่อนำมาประเมิน วิเคราะห์การค้า ลงทุน ท่องเที่ยว ว่ามีผลกระทบต่อธุรกิจท้องถิ่นมากน้อยแค่ไหนด้วย

สิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง และจับตามอง คือ นักลงทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนอุตสาหกรรมหรือตั้งโรงงานผลิตในไทย เพื่อส่งออกต่างประเทศ โดยใช้เครืองหมาย หรือแบรนด์ และบรรจุภัณฑ์ไทยที่ได้มาตรฐาน ทำให้ทั่วโลกยอมรับ ซึ่งผลประโยชน์ตกที่นักลงทุนต่างชาติ แต่คนไทยได้รับเป็นค่าจ้างเท่านั้นดังนั้นนักลงทุนไทย ต้องถอดบทเรียน เพื่อพัฒนาตนเอง สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้

Advertisement

ที่สำคัญต้องพึ่งตนเอง ลดพึ่งพาต่างชาติเพื่อสร้างฐานรากเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง นำไปสู่การขับเคลื่อนพัฒนาประเทศอย่างมั่นคง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image