นายศุภวุฒิ จิรมนัสนาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ยังมีแนวโน้มขยายตัว แต่ต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนโครงการภาครัฐว่าจะเป็นอย่างไร เพราะจะช่วยกระตุ้นการลงทุนเอกชนและสร้างความเชื่อมั่นการบริโภคให้กลับมา ในส่วนของรถหรูประเมินว่ายอดการจำหน่ายรถยังเติบโต และมีสัดส่วนการซื้อเงินประมาณ 35-40 % ส่วนรถระดับกลาง-อีโค ยอดการจำหนายน่าจะทรงตัว โดยช่วงเดือนครึ่งที่ผ่านมา ยอดสินเชื่อของบริษัทขยายตัวสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2558
สำหรับแผนธุรกิจปี 2559 บริษัทตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อใหม่ 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 15% จากปี 2558 ที่ผ่านมา ที่มีสินเชื่อใหม่ 1.2 หมื่นล้านบาท คาดว่าสิ้นปี จะมีสินเชื่อคงค้างราว 3.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่สินเชื่อคงค้าง 3.05 หมื่นล้านบาท โดยสัดส่วนเป็นสินเชื่อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ 90% และอีก 10% เป็นสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์และสินเชื่อรถบบรรทุก ปัจจุบัน มีส่วนแบ่งการตลาดเช่าซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ 44% และปีนี้ตั้งเป้าหมายมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 45% ส่วนที่เหลือเป็นเช่าซื้อผ่านไฟแนนซ์อื่นและเช่าซื้อผ่านธนาคารพาณิชย์ โดยการเติบโตของสินเชื่อมาจากกลุ่มลูกค้าเดิมอายุเฉลี่ย 47-50 ปี ที่มีการซื้อรถคันใหม่ เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ ยังมีกำลังซื้อและช่วงที่ผ่านมาชะลอการใช้จ่ายตามภาวะเศรษฐกิจ
รวมทั้งกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เปลี่ยนจากการใช้รถญี่ปุ่น มาใช้รถยุโรป รวมทั้ง มีการขยายตัวของสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์และรถบรรทุก ตามการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานและการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ที่จะทำให้มีการค้าขายติดต่อกันและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้น ด้านคุณภาพสินเชื่อของลูกค้าบริษัทยังอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งบริษัทมีการติดตามลูกค้าอย่างใกล้ชิด อัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ 0.4% อยู่ในระดับต่ำกว่าอุตสาหกรรมอยู่ที่ 2.5% หรือต่ำกว่าอุตสาหกรรมประมาณ 6 เท่า