‘บิ๊กศุภาลัย’มั่นใจตั้ง’รัฐบาลใหม่’ไม่ยืดเยื้อ ไร้ปัญหาขึ้นค่าแรง ห่วงลงทุนเมกะโปรเจ็กต์อืด
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการติดตามข้อตกลง 23 ข้อในMOU ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลก็พอใจในระดับหนึ่ง และมีความชัดเจนมากพอ ทำให้เกิดความมั่นใจ เช่น ระบบการปกครอง ความสมานฉันท์ในสังคม
การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น การกิโยตินกฎหมายที่ล้าสมัย การทำให้กาสิโนถูกกฎหมาย เป็นต้น คาดหวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่คงจะไม่ยืดเยื้อมาก
“ดูผลการเลือกตั้งที่ออกมา คนออกมาใช้สิทธิกันจำนวนมาก ทำให้เห็นแนวโน้ม มีความหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงและมีการเริ่มต้นที่ดีขึ้น เช่น การคอรัปชั่นที่ต่อจากนี้ไปจะลดลง การปฎิรูประบบราชการและอะไรต่างๆ ที่จะดีขึ้น และมีหลายพรรคมีนโยบายต่างๆในการพัฒนาเศรษฐกิจ และเพิ่มกำลังซื้อ เริ่มมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆ ดีขึ้นต่อเนื่องไปถึงปี 2567 หลังจากดูแล้วมีวิธีการหลายอย่างมีเหตุมีผล “นายประทีปกล่าว
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
นายประทีป กล่าวว่า ส่วนนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท หลังเมื่อมีการ MOU กับพรรคร่วม เชื่อว่าคงจะต้องมีการไปหารือร่วมกันใหม่ และยังต้องฟังเสียงเอกชนอีก ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทไม่มีปัญหาการขึ้นค่าแรง รัฐบาลจะประกาศขึ้นเท่าไหร่ก็ต้องทำตาม แต่ที่ห่วงคือธุรกิจรายย่อยหรือเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็กๆ จะรับไม่ไหว
โดยมองว่าการขึ้นค่าแรงน่าจะเห็นผลเร็วสุดในปี 2567 เพราะกว่าที่รัฐบาลใหม่จะเข้ามาบริหารประเทศก็เป็นไตรมาส 4 ของปี 2566 ทั้งนี้ ผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถ้าหากมีการขึ้นค่าแรง จะทำให้ราคาบ้านปรับขึ้นตามไปด้วย เพราะราคาบ้านนั้น มาจากต้นทุนราคาที่ดินและค่าก่อสร้างที่จะขึ้นตามราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าขนส่งและค่าแรง
“เราต้องให้โอกาสรัฐบาลก้าวไกล เพราะประชาชนเลือกมาแล้ว ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ เราก็ต้องให้กำลังใจ ให้ลองทำงานก่อน ถ้าไม่ดีก็ไม่เลือกในครั้งต่อไป สิ่งที่เอกชนอยากเห็น คือตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่ม ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมดี ทั้งภาคส่งออก การท่องเที่ยว รัฐบาลต้องเร่งการลงทุน เพราะช่วงที่เปลี่ยนผ่านนี้จะทำให้การลงทุนของภาครัฐชะลอลง โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจ็กต์ที่รัฐบาลใหม่จะต้องเร่งฟื้นฟูการลงทุนโดยเร็ว เพื่อขับเคลื่อนผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตมากขึ้น เพราะเมื่อเศรษฐกิจดี จะส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ ดีตามไปด้วย” นายประทีปกล่าว
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
ด้าน นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลใหม่จัดตั้งได้เร็ว ไม่มีปัญหา ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี จะช่วยภาพรวมของประเทศเดินหน้าไปได้แน่นอน ซึ่งคุณพิธาว่าที่นายกรัฐมนตรีก็ถือว่าโอเค ส่วนฝีมือจะเป็นอย่างไรก็ต้องมาดูกัน
โดยคาดหวังว่าเมื่อมีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลจะทำให้ทุกอย่างกลับมาดีขึ้น ในส่วนของนโยบายเท่าที่ดูก็ไม่ค่อยซีเรียส อย่างการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทก็ไม่กังวล ถ้าทำให้รายได้โดยรวมของประเทศดีขึ้นและลดความเหลื่อมล้ำลงได้ แม้ว่าในภาพรวมจะทำให้มีต้นทุนสูงขึ้น แต่ไม่ใช่กระทบแค่บริษัท เป็นทั้งอุตสาหกรรม โดยคาดว่าหากขึ้นค่าแรง 450 บาทจริง จะทำให้ราคาบ้านและคอนโดมิเนียมปรับขึ้นประมาณ 5-10%
“สิ่งที่จะขอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาช่วยแก้ปัญหา คือ แรงงานก่อสร้างยังมีปัญหาคาราคาซัง โดยเฉพาะการนำเข้าแรงงานต่างด้าว อยากให้มีการปลดล็อกให้การนำเข้าถูกกฎหมายและง่ายขึ้น ส่วนมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เช่น ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจำนอง หากมีการทำต่อเนื่องได้ก็ดี” นายไตรเตชะกล่าวว่า
