อสังหาฯ จับตาการเมืองพลิกขั้ว ห่วงเสถียรภาพรัฐบาล ม็อบฮือ หาก ‘เพื่อไทย’ ทิ้ง ‘ก้าวไกล’

อสังหาฯ จับตาการเมืองพลิกขั้ว ห่วงเสถียรภาพรัฐบาล ม็อบฮือ หาก ‘เพื่อไทย’ ทิ้ง ‘ก้าวไกล’

วันที่ 19 กรกฎาคม นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ที่ไม่พิจารณาชื่อ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นั้น ถือว่าไม่เหนือความคาดหมาย อย่างไรก็ตาม ต้องดูว่าทั้ง 8 พรรคการเมืองจะหาทางออกอย่างไรต่อไป จะให้พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นพรรคอันดับ 2 เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะไม่มีตัวเลือกแล้ว ซึ่งมี 3 คนเป็นแคนดิเดตของพรรค คือ คุณชัยเกษม คุณเศรษฐา และคุณแพทองธาร หรือจะมีการสลับขั้วใหม่ แล้วผลักให้พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะถึงพรรคก้าวไกลอยู่ต่อ แม้ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ยังมี ส.ว.สกัดอยู่ในเรื่องที่เห็นต่างกัน หากพรรคเพื่อไทยยังอยู่กับพรรคก้าวไกลก็มีโอกาสน้อยที่จะได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี ตอนนี้สถานการณ์การเมืองมันมีความเป็นไปได้หลายทางและมีความไม่แน่นอนสูง และกังวลว่าหากมีการพลิกขั้วใหม่จะเกิดความวุ่นวายรุนแรงขึ้น เพราะทุกอย่างเป็นไปได้หมดตอนนี้

นายอธิปกล่าวว่า ในภาคธุรกิจไม่ติดขัดใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่อยากให้ตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด ไม่ยืดเยื้อลากยาว เพราะไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในเรื่องการลงทุน ที่ทำให้นักลงทุนไม่ว่าไทยและต่างชาติไม่มีความเชื่อมั่น ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณจะไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ จากสถานการณ์ล่าสุด คงจะมีการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าไปบ้างเล็กน้อย แต่หากอยู่ในช่วงสิงหาคม-กันยายน ก็น่ายังพอรับได้ หากเลยจากนี้ไปคงส่งผลกระทบมากขึ้น เพราะเหลือแค่ภาคการท่องเที่ยวอย่างเดียวเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปีนี้ เพราะส่งออกมีแนวโน้มติดลบ

“นักลงทุนไทยและต่างชาติก็รอดูว่าใครเป็นรัฐบาล มีเสถียรภาพหรือไม่ อยากให้ชัดเจนโดยเร็ว เพื่อจะได้เดินหน้าแผนธุรกิจ ซึ่งเมื่อได้รัฐบาลใหม่แล้ว ต้องรีบตั้งคณะรัฐมนตรีและทีมเศรษฐกิจโดยเร็ว และต้องเลือกผู้มีความรู้ ความสามารถที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้” นายอธิปกล่าว

Advertisement

นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการบริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และประธานคณะกรรมการอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อไม่มีการโหวตคุณพิธารอบ 2 ควรให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลต่อไป เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ตามครรลองของกฎหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเอกชนไม่อยากเห็นการเมืองลากยาวทั้งเรื่องจัดตั้งรัฐบาลที่ควรเดินหน้าต่อไป ในขณะเดียวกันไม่ควรมีการชุมนุมจนเป็นชนวนเหตุ นำไปสู่ความรุนแรง ไม่ว่าจะฝ่ายใด เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศชาติและประชาชนที่กำลังเผชิญอยู่ เดินหน้าต่อไปได้ ถ้าตั้งรัฐบาลไม่ทันเดือนสิงหาคมนี้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจแน่ ทั้งเรื่องของงบประมาณปี 2567 ที่เบิกจ่ายไม่ได้ การลงทุนใหม่อาจไม่เกิด จะลามไปถึงการท่องเที่ยวด้วย หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้น

“ทางออกตอนนี้ ทุกฝ่ายต้องเคารพกฎเกณฑ์ เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลตามกฎเกณฑ์ที่มีอยู่ กฎเกณฑ์ใดที่เห็นว่าไม่เหมาะสม ก็แก้ด้วยกลไกรัฐสภาในขณะเดียวกัน ส.ว.ชุดนี้ในเดือนพฤษภาคมปีหน้าก็หมดไปตามกฎเกณฑ์เช่นเดียวกัน ทุกฝ่ายควรยอมรับว่าเราลงแข่งขันตามกติกาที่เราทราบล่วงหน้าแล้ว การเมืองขณะนี้แม้จะเห็นต่างกันบ้าง แต่ไม่ควรมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่จุดชนวนไปสู่ความรุนแรงและทำให้การเมืองต้องนับหนึ่งใหม่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชน ที่ทุกฝ่ายบอกว่ามีความปรารถนาดี” นายอิสระกล่าว

นายวรวุฒิ กาญจนกูล กรรมการกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านและประธานบริหารบริษัท ดับบลิวเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้การเมืองเป็นเรื่องคาดเดายากว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่หลายคนแม้กระทั่งคุณพิธาเองก็คงพอเดาได้ว่าวันนี้ศาลน่าจะออกมาในรูปนี้ ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจ ณ ตอนนี้ยังคงไม่น่ามีอะไรมาก ดูได้จากตลาดหุ้นก็ไม่ได้ตอบรับจากเรื่องนี้เท่าไรนัก เพราะไม่ได้เกินการคาดเดา

Advertisement

“แต่สิ่งที่คนรอคืออยากทราบว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ดูแล้วเป็นโอกาสของพรรคเพื่อไทยจะเสนอแคนดิเดต จากนั้นจึงจะมาดูนโยบายของเขาที่เคยพูดไว้อีกทีว่าจะเน้นทางด้านใดและจะเป็นบวกหรือลบต่อภาคธุรกิจใด แต่มีความกังวลเรื่องม็อบที่สนับสนุนคุณพิธาถ้าไม่ออกมาเกินขอบเขตและไม่มีใครหนุนหลังก็คงไม่มีอะไรมาก” นายวรวุฒิกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image