รองประธานส.อ.ท. ยกเคส อธิบดีกรมโรงงานลาออก ถามความถูกต้อง-เป็นธรรม อยู่ตรงไหน?
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว ถามความถูกต้องและความเป็นธรรมของข้าราชการน้ำดีจากมรสุมในกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ตรงไหน ภายหลัง นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ประกาศลาออกจากราชการ โดยมีเนื้อหาดังนี้
ความถูกต้องและความเป็นธรรมของข้าราชการน้ำดี จากมรสุมในกระทรวงอุตสาหกรรม อยู่ตรงไหน ?
1) กรณีเพลิงไหม้โรงงาน ที่ทำผิดกฎหมายพ.ร.บ.วัตถุอันตรายฯ และพ.ร.บ.โรงงานฯ ที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง และ ที่ อำเภอภาชี จ.อยุธยา ซ้ำซาก
1.1) มันคือ Accident หรือ มีใครจงใจเผาทำลายหลักฐาน วัตถุอันตรายฯ ที่เข้าสู่ระบบ และไม่ได้กำจัด ตาม กฎหมาย ?
1.2) อำนาจหน้าที่ในการจัดการ กำกับดูแลโรงงาน ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตรายฯได้ มอบอำนาจไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในจังหวัดนั้นๆแล้ว ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับ อธิบดีกรมโรงงาน ฯ
ดังนั้นการที่ ท่านอธิบดีกรมโรงงานฯ ไปช่วย ให้คำปรึกษา แนะนำ หน้างาน ในแต่ละกรณีจนเสมือนต้องกลายเป็นคนต้องมารับผิดชอบทั้งหมด ! มันถูกต้อง และเป็นธรรมหรือไม่ กับข้าราชการดีๆ เช่นนี้ ?
1.3) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะระดับนโยบายควรจะลากไปถึงต้นตอว่ายุคไหน? สมัยไหน ?
ปลัดฯและอธิบดีท่านไหน ที่มีการ ปล่อยปละละเลย(หรือเห็นด้วยฯ) ให้มีการอนุญาตให้ขนกากที่เป็นวัตถุอันตรายในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกองกากอุตสาหกรรม กรมโรงงานฯ ได้
ทั้งๆที่ควรจะโดนจัดการไปตั้งแต่ปีที่เจ้าหน้าที่ได้คีย์อนุญาตให้มีการขนกากอันตรายไปแล้ว
2) กรณีกากแคดเมียม ที่จ.ตาก
ก็สะท้อนปัญหา แบบมีเงื่อนงำ ในการจัดการกากวัตถุอันตราย ที่ควรจะให้เป็นไปตาม EIA ที่กำหนดไว้ แต่ก็มีการฝ่าฝืนทำผิดกฎหมาย
ล่าสุด! การที่ข้าราชการประจำ หลายหน่วยงานได้ลงพื้นที่ และพยายามแก้ไขปัญหาการขนกากแคดเมียมกลับมาที่ต้นทาง ให้ดีที่สุด ก็สมควรที่จะได้รับกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะจากผู้บังคับบัญชามากกว่า การจ้อง ดิสเครดิต หรือทำลายล้างกัน แม้จะมีเหตุไม่คาดคิดใดๆ
บทสรุป : หน่วยงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคการเมือง ทั้งที่ดูแลด้านนโยบาย และ ภาคนิติบัญญัติ ควรจะแสดงความเป็นมืออาชีพ ในการแก้ไขปัญหาที่ได้รับการมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้วจากส่วนกลาง
1) การมุ่งแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุตั้งแต่ต้นตอ ที่ได้ก่อตัวเกิดขึ้นตั้งแต่ในอดีต เอาคนผิดมาลงโทษ รวมทั้งผู้ประกอบการสีดำที่ควรโดนลงโทษสูงสุด ไม่ใช่มุ่งแต่กดดัน ลงโทษคนที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาและรับผิดชอบแทนในปัจจุบัน ตลอดจนเร่งแก้ปัญหาปัจจุบัน ที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนให้ดีที่สุด
2) อย่าให้การหาผลประโยชน์ในการแต่งตั้งตำแหน่งข้าราชการประจำในตำแหน่งสำคัญๆ ที่อาจจะมีการวิ่งเต้น หาผลประโยชน์ เราควรยึดหลักธรรมาภิบาล ด้วยการเลือก คนเก่ง และ คนดีในการดำรงตำแหน่งที่สำคัญ
ท้ายนี้ ไม่ว่า การลาออกของท่านอธิบดี กรมโรงงานฯ จะมีผลสรุปอย่างไร ?
ผมก็ได้แต่หวังว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ จะทำให้สังคม ที่เกี่ยวข้อง จะได้ตื่นตัว ด้วยการให้กำลังใจคนทำดี
และ ร่วมจับตามองใกล้ชิด ต่อคนที่เป็นต้นเหตุของ มะเร็งร้าย และวงจรอุบาทว์ของประเทศครับ
ขอบคุณมากครับ
ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง