นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คาดมีผลผลิต 4.61 ล้านตันต่อปี ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ จึงต้องนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์อื่นมาทดแทน เช่น ข้าวสาลี และกากข้าวโพดจากการผลิตเอทานอล เพื่อให้อุตสาหกรรมปศุสัตว์มีวัตถุดิบเพียงพอในราคาต้นทุนที่สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้
แต่ปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เกือบครึ่งหนึ่งปลูกในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ และบางส่วนบุกรุกพื้นที่ป่า ทำให้ได้ผลผลิตคุณภาพต่ำ ผู้ผลิตอาหารสัตว์หลายรายจึงไม่รับซื้อ เนื่องจากจะเป็นปัญหาต่อการส่งออกปศุสัตว์ จากประเทศผู้ซื้อกำหนดเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นข้อแม้ในการซื้อด้วย กระทรวงพาณิชย์จึงเสนอแนวทางบริหารจัดการการนำเข้าวัตถุดิบทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยใช้มาตรการกำหนดอัตราส่วนการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ต่อการรับซื้อข้าวโพด 3 ส่วน ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2560 แต่ก็มีผู้เสนอให้ระงับการนำเข้าข้าวสาลีเนื่องจากจะขัดกับพันธกรณีของไทยภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO)
ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร กรมจึงได้เชื่อมโยงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้แก่เกษตรกร โดยขอความร่วมมือสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากเกษตรกรไม่ต่ำกว่ากิโลกรัม (กก.) ละ 8 บาท ที่ความชื้น 14.5% แต่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีเอกสารสิทธิจะรับซื้อในราคาต่ำกว่า และสนับสนุนการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า
สำหรับสินค้าเกษตรอื่นๆ ส่วนใหญ่มีราคาสูงขึ้น เช่น กระเทียม หอมแดง พริก ราคาเฉลี่ยเดือนเมษายน ยังอยู่ในเกณฑ์ดีและสูงกว่าราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมา ประมาณ 3-89% เช่น ราคาหอมแดงหัวกลางมัดจุกแห้ง 7-15 วัน เกษตรกรขายได้เฉลี่ย กก.ละ 24.50 บาท สูงกว่าปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ กก.ละ 20.41 บาท ราคากระเทียมสดคละที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยรายเดือน ณ วันที่ 21 เมษายน กก.ละ 26.75 บาท สูงกว่าปี 2559 อยู่ที่ กก.ละ 16.37 บาท ยกเว้นถั่วเขียวราคาต่ำกว่า 3 ปีที่ผ่านมาเล็กน้อย เนื่องจากเกษตรกรปลูกทดแทนข้าวนาปรังจำนวนมาก และผลผลิตยังไม่ได้คุณภาพตามความต้องการของตลาด กรมเตรียมมาตรการรองรับหากเกิดปัญหา โดยจะเชื่อมโยงไปยังโรงงานแปรรูป เป็นหอมแดงเจียว กระเทียมเจียว พริกป่น เครื่องแกง วุ้นเส้นถั่วเขียว และพริกแห้ง
