เงินเฟ้อพ.ค. ลดครั้งแรกรอบ 14 เดือน 0.04% ปีนี้ไม่เจอภัยแล้งกดราคาพืชผลถูก ราคาเฉลี่ยน้ำมันยังลดลง

นางสุรีย์พร สหวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ) ทั่วไป เดือนพฤษภาคม 2560 เท่ากับ 100.64 สูงขึ้น 0.15% เทียบเดือนเมษายน 2560 แต่ลดลง 0.04% เทียบเดือนพฤษภาคม 2559 นับว่าลดลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 เนื่องจากสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 1.38% ซึ่งเป็นผลหลักจากอาหารสดอย่างผักและผลไม้ลดลงถึง 12.92% เพราะปีนี้ไม่เจอภัยแล้ง ผลผลิตจึงดีกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ราคาจึงไม่สูงมาก ประกอบกับราคาน้ำมันเฉลี่ยของทั้งเดือนพฤษภาคมลดลง 20 สตางค์ หรือลดลง 1.67% เทียบเดือนเดียวกันปีที่แล้ว และราคาแก๊สหุงต้มในครัวเรือนก็ลดลงเช่นกัน ส่วนสินค้าหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.74% จากค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 12.52 สตางค์ต่อหน่วย และค่าทำเนียมการศึกษาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

นางสุรีย์พร กล่าวว่า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน หักกลุ่มอาหารสดและพลังงานออกไป เท่ากับ 101.14 สูงขึ้น 0.01% เทียบเดือนเมษายน 2560 และสูงขึ้น 0.46% เทียบเดือนพฤษภาคม 2559 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเล็กน้อย อยู่ในภาวะปกติ การขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อจึงน่าพอใจ สะท้อนเศรษฐกิจดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 5 เดือนแรก ( มกราคม-พฤษภาคม)ปี 2560 สูงขึ้น 0.81% เทียบช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตามแนวโน้มราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขยับขึ้น และกำลังซื้อของครัวเรือนที่ดีขึ้นจากรายได้เกษตรกรและผลผลิตภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

“คาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ 0.8-0.9% เพราะคาดว่าราคาสินค้าในเดือนมิถุนายนนี้ที่ต่อจากเดือนพฤษภาคมไม่เปลี่ยนแปลงมาก และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงอาจจะขยับขึ้นเล็กน้อย กระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปี 2560 อยู่ที่ 1.5-2.2% บนพื้นฐานเศรษฐกิจขยายตัว 3-4% ราคาน้ำมันดิบดูไบ 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 35.5-37.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามสิ้นเดือนมิถุนายนนี้กระทรวงพาณิชย์จะทบทวนและปรับประมาณการณ์ใหม่ของเงินเฟ้อทั้งปีนี้ โดยในครึ่งปีหลัง ต้องจับตาปัจจัยหลักที่มีผลต่อเงินเฟ้อ คือราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มขยับขึ้น หลังกลุ่มโอเปกตกลงจะลดกำลังการผลิต ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น โดยเดือนพฤษภาคม 2560 อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยอยู่ที่ 34.47 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าการใช้จ่ายและรายได้ของประชาชนจะสูงขึ้น จากมาตรการของภาครัฐในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุ”

นางสุรีย์พร กล่าวว่า สำหรับรายการสินค้าที่ทำการสำรวจ 422 รายการในเดือนพฤษภาคม 2560 เทียบเดือนก่อนหน้า มีการเปลี่ยนแปลง ราคาเพิ่มขึ้น 151 รายการ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ ซึ่งราคาเพิ่มขึ้นจากความต้องการช่วงเปิดเทอม ผักสดและผลไม้ เช่น มะนาว ผักคะน้า ซึ่งผลผลิตเสียหายเล็กน้อยจากอากาศแปรปรวน ราคาจึงสูงขึ้นมา ส่วนผลไม้ เช่น เงาะ มังคุด ทุเรียน ราคาก็สูงขึ้นเพราะเป็นต้นฤดูกาล ส่วนราคาสินค้าลดลง 91 รายการ เช่น ข้าวสาร แก๊สหุงต้มในครัวเรือน น้ำมันเชื้อเพลิง ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นต้น และมีราคาไม่เปลี่ยนแปลง 180 รายการ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image