ขนส่งทางบกสั่งอายัดรถ ขส.ทบ. 605 คัน ยื่นเอกสารเท็จประมูลขายทอดตลาด เร่งสอบเอาผิดยกแก้งค์

วันที่ 30 มิถุนายน ที่กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พล.ต.สมศักดิ์ ทรัพย์อนันต์ เจ้ากรมการขนส่งทหารบก(ขส.ทบ.) นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ร่วมแถลงข่าวการกวาดล้างขบวนการมิจฉาชีพที่แอบอ้างยื่นเอกสารเท็จรถประมูลขายทอดตลาดของ ขส.ทบ.

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ขส.ทบ. ตรวจสอบพบพิรุธเรื่องการยื่นเอกสารการประมูลรถขายทอดตลาดของ ขส.ทบ. จึงได้ประสานกรมการขนส่งทางบกขอตรวจสอบรายละเอียด การยื่นเอกสารบัญชีรถประมูลขายทอดตลาดของ ขส.ทบ. ทุกฉบับอย่างละเอียด ซึ่งล่าสุดพบว่ามีขบวนการยื่นเอกสารส่งบัญชีรถแจ้งการประมูลขายทอดตลาดลงนามโดยพันเอก ภพกฤต พันธ์ยศ รวมทั้งสิ้น 9 ฉบับ เป็นรถจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,136 คัน ซึ่ง ขส.ทบ. ตรวจสอบรายละเอียดและยืนยันว่าเป็นการยื่นเอกสารเท็จ เนื่องจากห้วงระยะเวลาดังกล่าว ขส.ทบ. ไม่มีการประมูลรถขายทอดตลาดแต่อย่างใด แต่เป็นการจัดทำเอกสารปลอมขึ้น โดยกลุ่มบุคคลที่จัดเตรียมเป็นขั้นตอน

ทั้งนี้ เนื่องจากระบบราชการเมื่อมีการรับเอกสารส่งบัญชีรถแจ้งการประมูลขายทอดตลาดหน่วยงานราชการ กรมการขนส่งทางบกจะส่งหนังสือราชการถามกลับไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของรายละเอียดรถขายทอดตลาดดังกล่าวทุกครั้ง และเมื่อได้รับหนังสือตอบกลับตามระบบราชการ จึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินการทางทะเบียนต่อไป

ซึ่งจากการดำเนินการตามระเบียบราชการของรถประมูลขายทอดตลาดของ ขส.ทบ. ดังกล่าว พบว่าผู้ปลอมแปลงเอกสารราชการมีขบวนการบริหารจัดการเพื่อแจ้งหนังสือกลับตามระเบียบราชการทุกขั้นตอน จนนำไปสู่การดำเนินการทางทะเบียนต่อไปได้ จากขบวนการดังกล่าวส่งผลให้มีรถที่จดทะเบียนจากการยื่นเอกสารบัญชีเท็จไปจำนวน 605 คัน โดยกระจายการจดทะเบียนไปจังหวัดต่างๆ โดยจดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1) จำนวน 289 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2) จำนวน 22 คัน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) จำนวน 265 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคลขนาดใหญ่ จำนวน 19 คัน รถโดยสารประจำทาง จำนวน 2 คัน รถโดยสารไม่ประจำทาง จำนวน 7 คัน รถโดยสารส่วนบุคคล จำนวน 1 คัน และในจำนวนนี้มีรถบางส่วนได้ย้ายทะเบียนรถไปจังหวัดต่างๆ อีก 18 จังหวัด

Advertisement

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ทันทีที่พบว่าเป็นการยื่นเอกสารเท็จรถประมูลขายทอดตลาดดังกล่าว ขส.ทบ. ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ลงนามในเอกสารเท็จและผู้เกี่ยวข้องแล้ว ณ สน.เตาปูน ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ยื่นเอกสารเท็จ ณ สน.บางซื่อ และสั่งอายัดการดำเนินการทางทะเบียนรถในกลุ่มดังกล่าวทั้งหมดทันที จากนั้นได้ทำหนังสือขอตรวจสอบข้อมูลของรถกับกองทัพบกและกรมศุลกากร เมื่อได้ข้อมูลแน่ชัดว่าเป็นรถที่ได้มาโดยไม่ชอบ จึงได้ออกคำสั่งนายทะเบียนเพิกถอนการจดทะเบียนรถในกลุ่มดังกล่าวทั้ง 605 คัน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อไป

นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการดำเนินการทางทะเบียนและภาษีรถของ ขส.ทบ. เพื่อตรวจสอบรายละเอียดการยื่นจดทะเบียนรถทุกขั้นตอน รวมทั้งเส้นทางการเคลื่อนไหวถ่ายโอนพร้อมทั้งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงหากพบ เจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบกมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการลงโทษขั้นเด็ดขาดทันที

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปอีกว่า เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชนเจ้าของรถ ที่ซื้อรถโดยสุจริต กรมการขนส่งทางบกได้ให้สำนักงานขนส่งจังหวัดที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและ            ให้คำแนะนำในด้านต่างๆ รวมถึงการฟ้องร้องทางคดีกับผู้นำรถมาจำหน่ายโดยมิชอบ ซึ่งเจ้าของรถที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อขอรับคำแนะนำกับ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่รถนั้นอยู่ในความรับผิดชอบหรือติดต่อขอข้อมูลจาก ขส.ทบ. ถ.ติวานนท์ จ.นนทบุรี

Advertisement

พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชน ร่วมพิทักษ์สิทธิด้วยการซื้อรถที่ถูกที่ต้องตามกฎหมายโดยเฉพาะอย่าหลงเชื่อซื้อรถที่มีราคาถูกเกินจริง รวมทั้งการซื้อขายรถที่มีเอกสารการได้มาของตัวรถไม่ชัดเจนการซื้อขายรถโอนลอย โดยไม่ดำเนินการทางทะเบียนหรือนำรถเข้าตรวจสภาพด้วยตนเอง เพราะอาจได้รับเอกสารปลอมและรถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยอาจเป็นรถที่ไปก่ออาชญากรรมหรือไปพัวพันคดียาเสพติด รวมทั้งเกี่ยวข้องกับคดีผิดกฎหมายทุกประเภท การซื้อขายรถทุกครั้งสามารถนำเอกสารสัญญาการซื้อขายขอตรวจสอบด้านทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งจังหวัดที่รถนั้นอยู่ในความรับผิดชอบก่อนการตัดสินใจซื้อขายทุกครั้ง เพื่อความมั่นใจว่าได้รถที่ถูกต้องตามกฎหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image