ยักษ์ใหญ่เครื่องจักร จี้ รบ.ประกาศเลือกตั้งให้ชัด ชี้โครงการรัฐไม่มีการลงทุนที่แท้จริง

“โคมัตสุ” ยักษ์ใหญ่วงการเครื่องจักรกลหนัก ชี้ตลาดเครื่องจักรกลหนักไทยปี 2018 ไม่กระเตื้องภาคการก่อสร้างชะลอตัวแม้ว่าแน้วโน้มเศรษฐกิจจะเติบโต ข่าวการเลือกตั้งปีหน้าส่งผลผู้ประกอบการรอความชัดเจนโครงการก่อสร้างต่างๆ จากทางภาครัฐ แต่ถึงอย่างไรโคมัตสุยังคงดำเนินกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง และมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึง แผนการขยายธุรกิจการบริการควบคู่กันไปในภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้นของตลาด

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นายประณิธาน พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลล์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากจบไตรมาสแรกของปี 2018 ตัวเลขยอดขายตลาดเครื่องจักรกลหนักยังคงทรงตัวไม่เติบโตขึ้น แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจากการรายงานข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้น คาดการณ์ว่าจีดีพีจะเติบโตประมาณ 3.9% และเติบโตต่อเนื่องในปี 2562 ประมาณ 3.7% แต่เมื่อพิจารณาอัตราการลงทุนภาคก่อสร้าง พบว่าชะลอตัวทั้งในส่วนของเอกชนและภาครัฐ

“ธุรกิจก่อสร้างไม่ได้เป็นไปตามภาพรวมของเศรษฐกิจ มีการชะลอตัวการลงทุนในภาคของการก่อสร้าง ประกอบกับการประกาศเลือกตั้งในปีหน้า ทำให้อาจจะมีความไม่ชัดเจนในด้านการลงทุนในโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ส่งผลให้ผู้ลงทุนยังชะลอการตัดสินใจลงทุน เพื่อรอความชัดเจนจากนโยบายรัฐ ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเครื่องจักรกลหนักโดยตรง คาดการณ์ว่าปีนี้ธุรกิจจะทรงตัวหรือใกล้เคียงปีที่แล้ว ภาพรวมของตลาดเครื่องจักรกลหนักในปี 2017 มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ประมาณ 14,500 บาท โคมัตสุมียอดขายเป็นมูลค่าอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 25.7% ปี 2018 นี้ จากเหตุผลการชะลอตัวภาคการก่อสร้างดังกล่าว โคมัตสุตั้งเป้ายอดขายว่าใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ดังนั้นรัฐบาลควรประกาศเลือกตั้งให้ชัดเจน เพราะแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศโครงการอีอีซีและเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังไม่มีการลงทุนอย่างแท้จริง

นายประณิธาน พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลล์ จำกัด

นายประณิธาน กล่าวต่อไปว่า สำหรับภาพรวมของตลาดเครื่องจักรกลหนักในปี 2017 ที่ผ่านมา มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ประมาณ 14,500 บาท โดยโคมัตสุ มียอดขายเป็นมูลค่าอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 25.7 % ในปีที่ผ่านมา และสำหรับปี 2018 นี้ จากเหตุผลการชะลอตัวภาคการก่อสร้างดังกล่าวมาแล้วนั้น ทางโคมัตสุ ตั้งเป้ายอดขายว่าจะมีมูลค่าใกล้เคียงกับปีที่แล้ว

Advertisement

นายประณิธาน กล่าวว่า แม้ว่าจากการคาดการณ์ตลาดในปี 2018 จะทรงตัว แต่ถึงอย่างไร โคมัตสุเองก็ยังคงจะต้องมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องต่อไป ในภาวะที่การแข่งขันในตลาดเครื่องจักรกลหนักนั้นมีการแข่งขันสูง ทางด้านผลิตภัณฑ์นั้น โคมัตสุ ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้เพื่อให้ลูกค้าของเราใช้เครื่องจักรโคมัตสุได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด โดยนอกจากระบบ KOMTRAX เป็นระบบที่ช่วยในการบริหารเครื่องจักรแล้ว ในปีนี้เราได้พัฒนาระบบ CARTE เป็นระบบฐานข้อมูลเครื่องจักรที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ ของเครื่องจักร ตั้งแต่เริ่มใช้จนถึงปัจจุบัน เช่น KOMTRAX, PM, KOWA ข้อมูลการบำรุงรักษา ระบบนี้ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกๆ ด้านของเครื่องจักรได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงการวางแผนการใช้งาน การวางแผนบำรุงรักษาเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เราทำควบคู่ไปกับการขาย และอยู่ในแผนการดำเนินธุรกิจของเรามาโดยตลอด คือ การดูแลเครื่องจักรตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งเป็นการให้บริการทั้งก่อน และหลังการขาย โดยเฉพาะบริการหลังการขาย เนื่องจากสินค้าเครื่องจักรเป็นสินค้าที่ค่อนข้างเฉพาะทาง เราจึงมีการดูแลเครื่องจักรของลูกค้าตลอดอายุการใช้งาน (Total Life Cycle Support) ผ่านบริการต่างๆที่เราคิดขึ้นมาเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะ B-Connect Warranty และระบบ Carte

นอกจากนี้เรากำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาช่องทางใหม่ในการให้บริการแก่ลูกค้าโดยนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าของเรา โดยปีที่ผ่านมาเราได้ขยายและเปิดศูนย์บริการของเราหลายจุด อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น นครสวรรค์ และศูนย์แห่งใหม่ที่จังหวัดมุกดาหาร พร้อมมีบุคลากรที่มีความชำนาญเชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรให้บริการหลังการขาย นับเป็นหัวใจหลักสำคัญ

Advertisement

“ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันมีคู่แข่งหน้าใหม่ๆ เข้ามาในตลาดเครื่องจักรกลมากขึ้น แต่เราเชื่อมั่นว่าเมื่อเทียบคุณภาพสินค้าและบริการของเราที่มีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศแล้วนั้น รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เครื่องจักร เราจะยังรักษาฐานลูกค้าของเราไว้ได้ ควบคู่กับการขยายกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นภายในปีนี้อีกด้วย และเราได้มีการปรับแผนการตลาด รวมถึงกิจกรรมสนับสนุนส่งเสริมการขายของเรา เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้น” นายประณิธาน กล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image