เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอาหารกลางวันเด็กว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้วางระบบให้โรงเรียนปฏิบัติต่อเนื่องหลายสิบปี โรงเรียนต้องบริหารให้เป็นระบบโดยเฉพาะการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบโดยต้องมีระบบตรวจสอบถ่วงดุล แต่ช่วงนี้มีการทุจริต การจัดซื้อวัตถุดิบไม่มีการถ่วงดุล สพฐ.ได้สอบสวนและลงโทษทางวินัยอย่างเข้มงวด ส่วนใหญ่ถูกสั่งให้ไปประจำส่วนราชการ หรือบางคนถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นมีอยู่จำนวนหนึ่ง ถือว่าไม่มาก
นายบุญรักษ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีโรงเรียนที่ถูกร้องเรียนเรื่องอาหารกลางวันไม่มีคุณภาพ และบริหารจัดการไม่โปร่งใส รวม 12 โรงเรียน จาก 10 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) คือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)ปราจีนบุรี เขต 1 จำนวน 1 โรงเรียน สพป.พิษณุโลก เขต 2 จำนวน 1 โรงเรียน จัดอาหารไม่ได้คุณภาพ แต่ไม่ได้ทุจริต สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 5 สิงห์บุรี จำนวน 1 โรงเรียน อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า มีการทุจริตหรือไม่
นายบุญรักษ์กล่าวต่อว่า สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2 จำนวน 1 โรงเรียน กรณีให้นักเรียนกินขนมจีนคลุกน้ำปลา ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว สพป.นราธิวาส เขต 2 จำนวน 1 โรงเรียน ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนออกจากพื้นที่ฯ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยแล้ว สพป.สุรินทร์ เขต 3 จำนวน 3 โรงเรียน มีการทุจริต สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ผู้อำนวยการโรงเรียนไปประจำยังเขตพื้นที่ฯ
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า สพป.ลพบุรี เขต 1 จำนวน 1 โรงเรียน อยู่ระหว่งตรวจสอบ สพป.ลพบุรี เขต 2 จัดอาหารไม่ได้คุณภาพ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จำนวน 1 โรงเรียน สพป.ขอนแก่น เขต 1 จำนวน 1 โรงเรียนอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง และย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนออกจากพื้นที่แล้ว และ สพป.อ่างทอง จำนวน 1 โรงเรียน ตรวจสอบแล้วไม่เป็นไปตามที่ร้องเรียน
“สพฐ.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีมูลความผิดก็สั่งให้ไปช่วยราชการที่อื่น หรือให้ไปประจำที่เขตพื้นที่ฯ เพื่อเปิดให้มีการตรวจสอบเต็มที่ ล่าสุดได้สั่งการด่วนให้ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบภายใน และผู้อำนวยการสำนักคลัง สพฐ. ซึ่งเป็นผู้รู้เรื่องระเบียบพัสดุและการเงิน ลงไปตรวจสอบโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ที่ได้รับงบประมาณจำนวนมากโดยโรงเรียนใช้วิธิจ้างเหมาด้วยวิธีประกวดราคาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-บิดดิ้ง ว่าการใช้วิธีจ้างเหมาลักษณะนี้ทำได้หรือไม่ กระบวนการอี-บิดดิ้ง ทำอย่างไร สัญญาที่จ้างมีรายละเอียดอย่างไร และกระบวนการตรวจรับเป็นอย่างไร คิดว่าไม่นานจะได้ข้อมูล ถือว่าสั่งการให้ลงไปตรวจสอบเป็นการภายใน และส่งชุดเฉพาะกิจลงไปตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง หากมีมูลจะตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ขณะเดียวกันยังสั่งการให้ผู้อำนวยการโรงเรียนไปปฏิบัติหน้าที่ยังเขตพื้นที่ฯแล้ว เพื่อให้สะดวกในการตรวจสอบต่อไป” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
นายบุญรักษ์กล่าวว่า ตนยังสั่งการผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯทั่วประเทศให้ตรวจสอบกระบวนการจัดสรรงบอาหารกลางวันของโรงเรียนทั่วประเทศ ถ้าพบว่าไม่จัดให้มีการถ่วงดุล ตรวจสอบ หรือไม่มีหลักฐานในการดำเนินการ ให้ถือเป็นความบกพร่องของผู้อำนวยการโรงเรียนด้วย จากนี้ สพฐ.จะเข้มงวดและจริงจัง โดยจะเข้าไปควบคุม ไม่ใช่ว่ารอให้มีการทุจริตแล้วจึงเข้าไปแก้ย้อนหลัง รวมถึงย้ำผู้อำนวยการ สพท.ให้ควบคุมกำกับดูแลโรงเรียนอย่างใกล้ชิด ไม่เพียงแต่เรื่องอาหารกลางวันเท่านั้น แต่รวมถึงความผิดอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา
นายบุญรักษ์กล่าวต่อว่า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของโครงการอาหารกลางวัน แม้บางคนระบุว่าบางพื้นที่วัตถุดิบแพง แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกลไก โปร่งใสถูกต้อง หากพื้นที่ใดเด็กได้ปริมาณอาหารน้อย เป็นเรื่องที่เราต้องแก้ไข สพฐ.มีนโยบายส่งเสริมงานเกษตรในโรงเรียนมานานแล้วว่า สำหรับโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ถ้าวัตถุดิบมีราคาแพง โรงเรียนต้องแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ส่งเสริมให้นักเรียนใช้เวลาชั่วโมงการงานและพื้นฐานอาชีพ มาปลูกผัก เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา หมุนเวียนเข้าระบบสหกรณ์ ส่งต่อไปยังอาหารกลางวันเด็ก ซึ่งเรามีตัวอย่างโรงเรียนลักษณะนี้จำนวนมาก หรืออีกตัวอย่างที่เริ่มดำเนินการในโรงเรียนที่มีพื้นที่จำกัด คือส่งเสริมให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ให้ชุมชนปลูกผัก เลี้ยงไก่ ส่งขายโรงเรียนในราคาถูก เข้าระบบสหกรณ์ เข้าสู่โครงการอาหารกลางวัน เป็นต้น ส่วนการสำรวจการโอนเงิน ภาพรวมแม้จะโอนเงินล่าช้าบ้างในบางพื้นที่ แต่พบว่าโรงเรียนแก้ปัญหาโดยใช้เงินอุดหนุนมาดำเนินการจัดหาอาหารกลางวันให้นักเรียน ไม่ได้มีปัญหามากนักในทางปฏิบัติ
