ส.บ.ม.ท.พร้อมช่วยครูฟ้องศาลปกครอง ซัดก.ค.ศ.ตัดสินวิทยฐานะ ‘ว13’ ไม่เป็นธรรม

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ข้าราชการครูและผู้บริหารสถานศึกษายื่นเสนอผลงานตามหลักเกณฑ์ผลงานเชิงประจักษ์ ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญ โดยส่วนใหญ่ได้รับแจ้งจากสำนักงาน ก.ค.ศ.ว่า ขาดคุณสมบัติ และก.ค.ศ.ชี้แจงว่าไม่สามารถนำรางวัลที่ ก.ค.ศ.เคยมีมติให้เป็นรางวัลระดับชาติ มาเสนอขอเทียบเคียงได้อีกเพราะหลายรางวัลมีคุณภาพไม่ถึงเกณฑ์ เนื่องจากเป็นรางวัลที่ส่วนราชการไม่ได้เสนอให้ ก.ค.ศ.รับรองมาแต่ต้นนั้นว่า การชี้แจงดังกล่าว ตนเห็นว่าไม่สามารถยอมรับได้ เพราะเป็นการตัดสิทธิที่เป็นการเลือกปฏิบัติ ไม่เป็นธรรมเนื่องจากรางวัลชนิดเดียวกันคนกลุ่มหนึ่งเคยได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้มีคุณสมบัติ แต่กลุ่มต่อมากลับถูกตัดสิทธิ

“คุณค่าของรางวัล ไม่ว่าจะเป็นปีใดนั้น จะต้องไม่ถูกลดค่าลงโดยคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด การทำเช่นนี้จะทำให้ครูท้อใจ ครูมิได้ทำงานเพื่อมุ่งหวังรางวัลแต่รางวัลที่ได้เกิดจากความเสียสละและการทุ่มเทให้กับนักเรียนจนเกิดผลดีต่อผู้เรียนจนได้รับรางวัลที่มีคุณค่าในระดับประเทศ ที่สำคัญการที่ก.ค.ศ.แจ้งผลการพิจารณาแค่ว่าขาดคุณสมบัตินั้น เป็นการแจ้งที่คลุมเครือ ขาดเหตุผลที่จะยอมรับได้ และหากจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ก็จะทำให้ไม่มีประเด็นที่จะอธิบายต่อศาล หากรอให้สำนักงาน ก.ค.ศ.แจ้งเหตุผลโดยละเอียดในภายหลัง ก็อาจทำให้ขาดอายุความในการฟ้องร้อง จึงขอเรียกร้องให้สำนักงาน ก.ค.ศ. รีบแจ้งเหตุผลที่อ้างว่าขาดคุณสมบัติโดยเร็วเพื่อลดแรงกดดันของครูและเพื่อให้ครูสามารถวิเคราะห์และใช้สิทธิทางกฎหมายได้ อย่างไรก็ตามหากครูรายใดเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและประสงค์จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ก็สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือจาก ส.บ.ม.ท. ได้” นายรัชชัยย์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image