เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่โรงแรมบางกอก พาเลส กรุงเทพฯ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวในการเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมขับเคลื่อนการดำเนินการ โครงการประเมินนักเรียนร่วมกับนานาชาติ ประจำปี 2561 หรือPISA 2018 โดยมี ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ที่มีโรงเรียนเป้าหมายเฉพาะ เข้าร่วมจำนวน 330 คน ว่า โครงการ PISA ริเริ่มโดยองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ Organisation for Economic Co-operation and Development – OECD เพื่อประเมินคุณภาพของระบบการศึกษา โดยประเมินความสามารถด้านการรู้เรื่องการอ่าน การรู้เรื่องคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ มีประเทศที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า 70 ประเทศทำการประเมินต่อเนื่อง 3 ปีต่อครั้ง ซึ่งในเดือนสิงหาคม 2561 นี้จะมีการประเมินอีกครั้ง ทั้งนี้ตนได้จัดตั้งศูนย์PISA สพฐ. ขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อม และดูภาพรวมการจัดสอบ โดยการสอบในเดือนสิงหาคมนี้ เป็นการสอบที่เน้นการอ่าน เป็นหลัก และได้มีการกำหนดกรอบการสุ่มตัวอย่างนักเรียนที่เข้าสอบ ซึ่งเป็นนักเรียนที่มีช่วงอายุ 15 ปี 3 เดือน จนถึง 16 ปี 2 เดือน ณ เดือนที่เก็บข้อมูล สำหรับPISA ประเทศไทย เก็บข้อมูลในเดือนสิงหาคม ดังนั้น กลุ่มตัวอย่างจึงต้องเป็นนักเรียนที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2545 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2546 และกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ขึ้นไป จากโรงเรียนทุกสังกัด
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า การประเมิน PISA ปี2558 ที่ผ่าน ประเทศไทยอยู่ในอันดับรั้งท้าย ตามหลังประเทศเวียดนาม ทั้งที่ทุกคนก็คิดว่า เด็กเราเก่ง ไม่ด้อยกว่าใคร เพราะ สามารถไปแข่งระดับโลก และได้รางวัลกลับมาจำนวนมาก อย่างไรก็ตามการประชุมครั้งนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อทำให้คะแนน PISA สูงขึ้น แต่เป็นการเตรียมความพร้อม ถอดบทเรียนที่เป็นอุปสรรค อย่างเช่น เรื่องอายุเด็กที่เข้าสอบ เดิมโรงเรียนจะคิดว่า เป็นเด็กที่เรียนอยู่ชั้นม.3 เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว เด็กที่อยู่ในช่วงอายุที่กำหนด คือ 15 ปี 3 เดือน จนถึง 16 ปี 2 เดือน อาจจะเรียนอยู่ชั้นที่สูงกว่านั้น หากเราให้เฉพาะเด็กที่อยู่ม.3 สอบ ก็อาจจะทำให้ได้คะแนนที่ไม่ตรงความเป็นจริง และไม่มีความเป็นธรรม ขณะเดียวกัน ยังมีปัญหาเรื่องการแปลภาษาในข้อสอบ PISA ซึ่งนักภาษาศาสตร์ บอกว่า เป็นการแปลภาษาไทย แบบอังกฤษ อาจทำให้เกิดความสับสน ไม่เป็นธรรมกับเด็กไทยที่จะเข้าสอบ ซึ่งตนได้ย้ำให้สพฐ. ลงไปดู และได้หารือกับ ผู้อำนวยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอเช็กการแปลภาษาของข้อสอบPISA ด้วย
“ข้อสอบPISA ยังเป็นความลับ เพียงแต่ผมต้องการดูเพื่อเช็กการแปลภาษาข้อสอบ เรื่องนี้ทางผู้เชี่ยวชาญของ OECD และผู้เชียวชาญ จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ก็เห็นด้วยว่า มีปัญหาในหลายประเทศไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย หากทางหน่วยงานที่ประเมินยืนยันไม่ให้เช็กข้อสอบ ผมก็จะไม่ให้เด็กไทยเข้าสอบ นอกจากนี้ยังหารือกับทาง OECD ขอตัดกลุ่มตัวอย่างผู้เข้าสอบ อย่างเช่น กลุ่มโรงเรียนขยายโอกาส ซึ่งบางโรงเรียนมีครูคนเดียว แต่ไม่ใช่ว่าไม่ให้เด็กกลุ่มนี้สอบยังให้สอบ แต่ไม่นำผลคะแนนมาประเมินภาพรวมในระดับประเทศ ซึ่งทาง OECD ก็ตกลง แต่ก็ต้องดูในรายละเอียดอีกครั้ง ”นพ.ธีระเกียรติ กล่าว