เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีมติเห็นชอบ ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการนำบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นเป็นบัญชี ในตำแหน่งครูผู้ช่วย โดยหลักเกณฑ์นี้ใช้กับทุกส่วนราชการ ดังนี้ การขอใช้บัญชีให้ คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)หรือ คณะอนุกรรมการก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณีเป็นผู้ดำเนินการ โดยความตกลงยินยอมระหว่าง กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง ที่เป็นเจ้าของบัญชี และที่ขอรายชื่อ โดยให้ดำเนินการบรรจุและแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้จากการขอใช้บัญชี ให้แล้วเสร็จก่อนที่บัญชีเดิมจะครบอายุการขึ้นบัญชี
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า สำหรับการขอใช้บัญชี ให้ดำเนินการดังนี้ กรณีสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ กศจ.ดำเนินการ ตามลำดับและขั้นตอน ดังนี้ ให้ขอรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้จากบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของ กศจ.ที่มีพื้นที่ติดต่อกันในสังกัดสำนักงานศึกษาธิการภาค(ศธภ.)เดียวกัน หาก กศจ.ที่มีพื้นที่ติดต่อกันในศธภ. เดียวกันไม่มี ให้ขอจาก กศจ.ที่มีพื้นที่ติดต่อกันในศธภ.อื่น หาก กศจ.ที่มีพื้นที่ติดต่อกันในศธภ.อื่น ไม่มี ให้ขอจาก กศจ.ใดก็ได้ ในศธภ. เดียวกัน หาก กศจ.ในศธภ.เดียวกันไม่มี ให้ขอจาก กศจ.ในศธภ.ใดก็ได้ หากทุกกศจ.ไม่มี ให้ขอจากบัญชี อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ(สศศ.) และหาก อ.ก.ค.ศ. สศศ.ไม่มี ให้ขอจากบัญชี อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง ของส่วนราชการ
“กรณีสถานศึกษาในสศศ. สังกัด สพฐ. ให้ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้งใน สศศ. พิจารณาขอจากบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของ กศจ.ที่ใกล้เคียงที่สุด ตามลักษณะภูมิศาสตร์กับหน่วยงานการศึกษาที่จะบรรจุและแต่งตั้ง โดยพิจารณาตามลำดับขั้นตอน กรณีสถานศึกษาสังกัดส่วนราชการอื่น ให้พิจารณาขอใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ของ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้งตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญ สำหรับผู้สอบแข่งขันได้รายใดที่สมัครใจและได้รับการประกาศขึ้นบัญชีของ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง ที่ขอรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้แล้ว หากไม่ไปรายงานตัวหรือขอระงับการบรรจุฯ ให้ถือว่าสละสิทธิการบรรจุแต่งตั้งและจะถูกยกเลิกการขึ้นบัญชีทั้งหมด กรณีไม่สมัครใจไปขึ้นบัญชี ผู้สอบแข่งขันได้รายนั้นจะยังคงขึ้นบัญชีตามลำดับที่เดิม โดยให้ส่วนราชการเป็นผู้กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับระยะเวลาในการพิจารณาดำเนินการในแต่ละขั้นตอน โดยเจ้าของบัญชีแจ้ง สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)หรือส่วนราชการที่ขอใช้บัญชีทราบผลการพิจารณาโดยเร็ว”นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการก.ค.ศ. กล่าวว่า หลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าวคล้ายกับครั้งที่ผ่านมา ต่างจากเดิมคือเปิดกว้างให้มีการขอใช้บัญชีข้ามสังกัดได้ด้วย จากเดิมจะขอย้ายข้ามบัญชีได้เฉพาะกศจ. เช่น สพฐ. สามารถขอใช้บัญชีครูผู้ช่วยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ แต่ต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอนที่กำหนด เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการอัตรากำลังที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ
“นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี น.ส.วนาลี ทุนมาก หรือครูแอน และ น.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญมี หรือครูวัลย์ ขอกลับเข้ารับราชการตำแหน่งครูผู้ช่วย หลังจากที่ครูแอนและครูวัลย์ได้รับการเรียกบรรจุแต่งตั้งให้เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูผู้ช่วยที่โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม แต่สอนได้ 5 เดือน ไม่ได้รับเงินเดือน และได้รับแจ้งจาก สพม.เขต 38 (สุโขทัย-ตาก) ว่าต้องพ้นจากตำแหน่งครูผู้ช่วย เนื่องจาก กศจ.ตากไม่อนุมัติการขอปรับเปลี่ยนวิชาเอกและขอเพิ่มเติมตำแหน่งว่างโรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม และไม่อนุมัติการบรรจุแต่งตั้ง เนื่องจากบัญชีอายุเกิน 2 ปี ทั้งนี้ที่ประชุมยังไม่มีมติประการใดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้”นายพินิจศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน นายพินิจศักดิ์ กล่าวว่า จริงๆ การตรวจสอบไม่นาน แต่ต้องรอรายงานจากทางคณะผู้ตรวจสอบ และบางเรื่องไม่สามารถหาข้อมูลที่ชัดเจนได้
ถามต่อว่า ที่ประชุมได้พูดถึงการเยียวยาครูแอน ครูวัลย์ หรือกรณีให้กลับเข้ารับราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วยหรือไม่ นายพินิจศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่พิจารณาเรื่องนี้ เป็นเพียงรายงานความก้าวหน้า รอข้อสรุปหลักเกณฑ์และความบกพร่องที่ชัดเจน เพื่อเสนอให้คณะอนุกรรมการกำกับติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านบุคคลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาพิจารณา
