กรณีดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาครูและบุคลากรการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพค.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ระบุว่าขณะนี้มีหน่วยจัดบางแห่งอาศัยช่องโหว่ของระบบคูปองพัฒนาครู โดยนำรายชื่อครูที่จองหลักสูตรในระบบคูปองพัฒนาครูของสพฐ. ไปเปิดไลน์กลุ่มเพื่อเชิญชวนให้ครูมาสมัครหลักสูตรโดยตรงกับหน่วยจัดในราคาที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวคือ 9,000 บาท จากที่เปิดในระบบช็อปปิ้งของสพฐ.อยู่ที่ 4,700 บาท โดยจูงใจด้วยการขยายเวลาจัดหลักสูตรพร้อมกับจัดหลักสูตรย้อนหลังปี 2560 เพื่อให้ครูมีชั่วโมงเพิ่มขึ้นสำหรับการยื่นขอวิทยฐานะ ซึ่งสพฐ.ได้หารือสำนักงานคณะกรรมการข้าราชาชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)และสถาบันคุรพัฒนา เห็นตรงกันที่จะให้ขึ้นแบล็กลิสต์หน่วยจัดที่ทำไม่ถูกต้องนั้น (อ่านรายละเอียด : ขึ้นแบล็คลิสต์หน่วยจัดหัวหมอ ใช้ช่องโหว่คูปอง ขายหลักสูตรเอง แถมเสนอใบอบรมย้อนหลัง)
รายงานข่าวแจ้งว่า หลักสูตรดังกล่าว มีผู้สมัครแล้วหลายคน และหลังจากที่สพฐ.มีข่าวขึ้นแบล็กลิสต์หน่วยจัดที่ทำไม่ถูกต้องนั้น ทางหน่วยจัดได้ชี้แจงว่าไม่ใช่การจัดหลักสูตรย้อนหลัง แต่เป็นการจัดหลักสูตรดังกล่าวขึ้นใหม่อีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับครูที่สมัครโดยตรงกับหน่วยจัดโดยไม่ผ่านระบบช็อปปิ้งของสพฐ.นั้น เป็นเงินส่วนตัวของครูที่ไม่สามารถใช้สิทธิรายหัว 10,000 บาทตามโครงการคูปองพัฒนาครูของสพฐ.ได้